"ส.ส.-ส.ว"คัดค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญตีความแก้ไขรธน.

 

โดยอ้างเหตุผล 3 ประการ คือ กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้องการแก้รัฐธรรมนูญไว้พิจารณา เนื่องจากถือเป็นอำนาจของรัฐสภา ตามบทบัญญัติของรัฐธรรรมนูญกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจรับคำร้อง 

 

ตามมาตรา 68 ไว้พิจารณาโดยตรง ซึ่งตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญระบุให้ผ่านการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากอัยการสูงสุดก่อน รวมถึงมาตรฐานการรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจยอมรับได้ เนื่องจากมีการเร่งรัดพิจารณารับคำร้องอย่างผิดปกติวิสัย และขัดหลักความเสมอภาค อีกทั้งเป็นการตีความขยายเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญเอง ซึ่งถือเป็นอันตรายต่อการปกครอง

  

ขณะเดียวกันตัวแทน ส.ส.และ ส.ว. ระบุที่จะมีการยื่นจดหมายเปิดผนึกต่อองค์กรอิสระ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ สถาบันการศึกษา ผู้พิพากษาและหัวหน้าศาลทุกจังหวัดทันที เพื่อนำไปศึกษา ยกเว้นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเกรงว่าจะถูกตีความเป็นคำชี้แจงข้อกล่าวหาตามคำร้องทั้ง 3 คำร้อง

 

และในวันเดียวกันนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แถลงว่า ได้ร่วมกับนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายคมสันต์ โพธิ์คง อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ปี 2550 เตรียมยื่นคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ตามมาตรา 68 กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวม 283 คน สั่งการและกระทำการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง โดยไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ

 

พร้อมระบุถึงหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอ 12 คลิป,บทสัมภาษณ์ 2 บทความ, และข่าวหนังสือพิมพ์ 17 ชุด ซึ่งมีสาระสำคัญที่ชี้ว่าพันตำรวจโททักษิณสไกป์สั่งการแก้รัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย