กลุ่มกรีนเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะรัฐบาล - พรรคเพื่อไทย
การไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญต่อกรณีรับคำร้องเรื่องสมาชิกรัฐสภา 312 คนดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญเข้าข่ายกระทำการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ กลายเป็นประเด็นสำคัญที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยืนยันว่าจะรวบรวมเอกสารหลักฐาน และถ้อยแถลงหรือคำให้สัมภาษณ์ เพื่อยื่นเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะของรัฐบาล รัฐสภา และพรรคเพื่อไทย
นายสุริยะใส เชื่อว่าการปฏิเสธอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจที่ 3 ในฐานะฝ่ายตุลาการตามระบอบประชาธิปไตย เท่ากับปฏิเสธรัฐธรรมนูญ ดังนั้น สถานะของรัฐบาล รัฐสภา และพรรคเพื่อไทยถือเป็นโมฆะได้ พร้อมอ้างอิงว่าคำร้องจะยึดข้อบัญญัติตามมาตรา 68 ว่าด้วยการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และมาตรา 216 ว่าด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลพูกพันกับทุกองค์กร
สำหรับการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเพื่อประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องนั้น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส.กล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่ประชาชนฝ่ายตรงข้ามจะลุกขึ้นปกป้อง และรักษาบ้านเมือง เนื่องจากกำลังของประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่เพียงพอต่อการคานอำนาจได้
พล.อ.บุญเลิศ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในภาวะที่เต็มไปด้วยความรู้สึกได้ใจที่มีบุคลากรทางการเมืองจำนวนมาก, มีความคะนองในอำนาจรัฐที่มีอยู่ และลำพองในศักยภาพของตัวเองและพี่น้อง จึงได้ใจที่จะลุกขึ้นมาแสดงบทบาททางการเมืองทั้งควบคุม และสั่งการ ซึ่งสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ คงต้องหวังพึ่งกองทัพที่จะได้ทำหน้าที่จัดระบบ และระเบียบ เพื่อความสงบสุข
ขณะที่นายกษิต ภิรมย์ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเตรียมออกแถลงการณ์ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงในสถานการณ์บ้านเมืองไทยช่วงรัฐประหาร เนื่องจากเห็นว่าการปาฐกถาของนายกรัฐมนตรี ระหว่างร่วมประชุมประชาคมประชาธิปไตย ที่ประเทศมองโกเลีย มีเนื้อหาที่บิดเบือนความจริงหลายประการ ซึ่งกระทบต่อวิถีประชาธิปไตยและภาพลักษณ์ของไทย
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุดวยว่า จะนำส่งแถลงการณ์ฉบับภาษาอังกฤษไปยังสถานทูตประเทศ หน่วยงานระหว่างประเทศ พรรคการเมือง สำนักงานประชาคมประชาธิปไตย และชาติสมาชิก เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันอีกด้วย