หลายพื้นที่ภาคใต้ประสบน้ำท่วมเป็นวงกว้าง จนท.เร่งเข้าช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำเรือท้องแบนเข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 หมู่ 8 และหมู่ 14 ตำบลบางสวรรค์ อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กว่า 10 ครัวเรือนที่ไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ เนื่องถนนทางเข้าหมู่บ้านยังมีน้ำป่าไหลผ่าน แต่ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว หากไม่มีฝนตก คาดว่าจะกลับเป็นปกติในช่วงบ่ายวันนี้
เช่นเดียวกับพื้นที่ตำบลคลองศก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ยังคงมีน้ำเอ่อท่วมถนนสายสุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 86-87 รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้
ขณะที่ชาวบ้านในตำบลปลายพระยา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่กว่า 30 ครัวเรือน เร่งอพยพขนทรัพย์สินไปไว้บนที่สูงหลังระดับน้ำในคลองอิปัน เอ่อท่วมหมู่บ้าน และพื้นที่ทำการเกษตรหลายร้อยไร่ บางส่วนต้องพักอาศัยอยู่ในเต๊นท์ริมถนนเป็นที่พักชั่วคราว
ส่วนที่จังหวัดสตูล น้ำท่วมได้ขยายวงกว้าง เข้าไปในพื้นที่อำเภอเมืองและอำเภอควนโดน หลังเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องระดมออกแจกจ่ายน้ำดื่มให้กับชาวบ้านกว่า 700 ครัวเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ขณะที่ทหารต้องนำรถแบ๊คโฮเก็บกวาดเศษกิ่งไม้ที่ถูกน้ำพัดมาติดตามสะพานหลายแห่ง เพื่อให้ระบายน้ำได้สะดวกมากขึ้น
ที่จังหวัดตรัง ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลบางรัก อำเภอเมืองตรัง พบมีดินทรุดตัวเป็นหลุมลึกประมาณ 4 เมตร กว้าง 3 เมตร บริเวณริมถนนเลียบแม่น้ำตรัง จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ คาดว่าเกิดจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน พร้อมประกาศให้พื้นที่อำเภอเมืองตรัง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว
ส่วนภาคเหนือที่จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่นำรถแบ็คโฮเปิดหน้าดินตลอดแนวถนนในเขตชุมชนเทศบาลตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง เพื่อสร้างท่อระบายน้ำแบบเปิดความยาว 500 เมตร เพื่อให้การระบายน้ำเร็วขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมซ้ำซาก รวมทั้งขณะนี้เริ่มมีฝนตกลงมามากขึ้น
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 ซึ่งรับผิดจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ได้มีการจัดตั้งศูนย์รับมืออุทกภัยประเมินและรับรายงานสถานการณ์แต่ละจังหวัดแบบวันต่อวัน เพื่อให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยได้จัดส่งเครื่องจักรไปไว้ในพื้นที่จังหวัดพะเยาเพิ่มเติมอีก 1 จุด หลังมีรายงานว่ามีฝนตกเกิน 100 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่