ดีเอสไอ เตรียมแยกฟ้องคดีชุมนุมทางการเมืองปี 53
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า หลังอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่งคง และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าโดยเจตนา ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553
ดีเอสไอจะแยกสำนวนสั่งฟ้องแต่ละคดี ยกเว้นกรณีการเสียชีวิต และบาดเจ็บในสถานที่ และเวลาเดียวกัน เช่น คดีการเสียชีวิตของกลุ่ม นปช.6 คน ในพื้นที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งมาจากคำสั่งของ ศอฉ. เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 1,000 คน และเสียชีวิต 89 คน
ซึ่งดีเอสไอส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพในคดีที่มีหลักฐานเชื่อว่าการเสียชีวิตเกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่กลับไปให้พนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุแล้ว 52 คน ศาลมีคำสั่งแล้ว 15 คน และมีสำนวนการไต่สวนส่งกลับมายังดีเอสไอ 13 คน โดยทั้งหมดยังไม่รวมคดีข้อหาพยายามฆ่าคนตาย ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน
นายธาริต ระบุถึง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หากออกบังคับใช้ ผู้ต้องหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับผลประโยชน์ไม่ต้องรับโทษ แต่หากร่างกฎหมายนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ดีเอสไอก็จะดำเนินการตามกฎหมาย
นายธาริต ยืนยันว่า จะไม่ดำเนินคดีกับทหารผู้ปฏิบัติ แม้จะมีพยานหลักฐานชัดเจน เนื่องจากได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 70 และ ความผิดเกิดจากการออกคำสั่งของ ศอฉ.ที่สั่งการให้มีการใช้กระสุนจริงควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม