วานนี้ (1 มิ.ย.2559) ผู้สอื่ข่าวรายงานว่าก่อนที่ พล.อชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้าพบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยให้สัมภาษณ์ระบุว่า การเข้าพบในวันนี้ไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ ส่วนกรณีดีเอสไอดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย นั้นห่วงใยและกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าจะสร้างปัญหาซึ่งเห็นว่าแม้จะเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติแต่ก็เป็นเรื่องของสงฆ์ที่ต้องเป็นผู้ดูแล เพราะมีทั้งเถระสมาคม สำนักพระพุทธศาสนา และ พ.ร.บ.สงฆ์ และเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่กฎหมายสูงสุดแต่สิ่งที่สูงสุดคือความอยู่รอดของชาติและพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ หากมีเรื่องที่กระทบต่อศาสนาและปฏิบัติตามกฎหมายแล้วเป็นเหตุให้ทำให้ความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นชาติสูญเสียไป
พล.อ.ชวลิต ระบุว่ากังวลเรื่องมือที่ 3 สร้างความวุ่นวายแต่เพราะคนไทยไม่เข้าใจกัน โดยเน้นย้ำเตือนให้คนไทยมีความเข้าใจกัน ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ทั้งนี้แนะนำขอให้ดีเอสไอเข้าเจรจาพูดคุยกับพระธัมมชโย
ส่วนประเด็นทางการเมืองกรณี คสช.ผ่อนปรนให้นักการเมืองเดินทางออกนอกประเทศได้ อดีตนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เป็นความพยายามของ คสช. ซึ่งเข้าใจการทำหน้าที่ แต่เนื่องจากส่วนตัวติดคดีทางการเมืองและต้องขออนุญาตต่อศาลก่อน พร้อมปฏิเสธแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีถอนฟ้องพันธมิตรที่อยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ยังชมว่านายกน่ารักขึ้นหลังผ่อนปรนให้นักการเมืองเดินทางออกนอกประเทศได้ ซึ่งการเข้าพบวันนี้ พล.อ.ชวลิต ระบุว่า เนื่องในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา จึงเข้าพรเพื่อขอรับพรให้มีบารมีและมีความสุขในการทำงานให้แก่ประเทศชาติได้หลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ