นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยว่า ยอดเงินจำนวน 400 ล้านบาทที่มีการบริจาคมาให้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดในคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ซึ่งหากดีเอสไอมีหลักฐานว่าเป็นเงินที่มาจากการยักยอกทรัพย์จริง ทางคณะลูกศิษย์จะประชุมหาแนวทางเยียวยาในการแก้ไขปัญหานี้อีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้คณะลูกศิษย์ได้ตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อเยียวยาสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ที่ได้รับความเสียหายจากคดีนี้ไปเต็มจำนวนแล้ว
โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายยังตั้งข้อสังเกตว่า การที่ดีเอสไอระดมเจ้าหน้าที่กว่า 1,000 นาย เพื่อเร่งดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แทนที่จะนำพนักงานสอบสวนไปเร่งขยายผลกับผู้กระทำผิดคนอื่นๆในคดีนี้ที่สร้างความเสียหายกว่า 10,000 ล้านบาท แต่ดีเอสไอกลับมาเร่งเอาผิดกับพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกายเพียงฝ่ายเดียว
นอกจากนี้ คณะลูกศิษย์ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ดีเอสไอเลือกปฏิบัติและใช้เวลานานเกินควรในการดำเนินคดีความผิดฐานกบฏกับพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ที่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่ม กปปส. ซึ่งการที่ดีเอสไอมาให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วนกับคดีของพระธัมมชโยเป็นเพราะมีการสั่งการจากบุคคลใดเป็นพิเศษหรือไม่ ซึ่งคณะลูกศิษย์อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฏหมายว่าเจ้าหน้าที่ มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่
โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ยืนยันว่าพร้อมเปิดให้สื่อมวลชนเข้าตรวจสอบบริเวณพระอุโบสถของวัด เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีการซ่องสุมอาวุธตามที่มีการกล่าวหา แต่คงไม่สามารถนำสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมกุฏิของพระธัมมชโยได้ เนื่องจากถือเป็นเขตสังฆาวาส