วันนี้ (15 ก.ย. 2559) นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เพื่อสนับสนุนแรงงานไทยที่ต้องการจะไปทำงานในต่างประเทศ
โดย ธ.ก.ส. จะปล่อยสินเชื่อวงเงินกู้ไม่เกิน 250,000 บาทต่อคน คิดดอกเบี้ยในอัตราลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 7 ต่อปี ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถใช้อสังหาริมทรัพย์จำนองเป็นประกันหนี้เงินกู้ หรือใช้ร่วมกลุ่มค้ำประกัน ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 12 เดือน หรือไม่เกินสัญญาจ้างงาน และต้องชำระคืนเท่ากันทุกงวด
นายภิรมย์กล่าวต่ออีกว่า คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเกษตรกร และเป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ขอกู้เพื่อตนเอง คู่สมรส บุตร หรือคู่สมรสของบุตร นอกจากนี้ ยังต้องผ่านการทดสอบและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ที่กรมการจัดหางานและผู้ว่าจ้างให้ทำงานในต่างประเทศกำหนด และได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานในต่างประเทศจากกรมการกงสุล สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศที่จะไปทำงานผ่านวีซ่า หรือวีซ่าประเภทอื่นๆ
“สำหรับแรงงานไทยที่สิ้นสุดสัญญาจ้างงานแล้ว เมื่อเดินทางกลับประเทศไทย ธ.ก.ส.มีสินเชื่อเพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 4 ต่อปี เพื่อส่งเสริมในการพัฒนาอาชีพต่อไป” รองผู้จัดการ ธ.ก.ส.ระบุ
ด้าน นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งไทยทำกับประเทศอิสราเอล ประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไต้หวันบางส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันในแต่ละปี มีผู้หางานและเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศเฉลี่ย 1.2 แสนคน โดยในปี 2558 จากข้อมูลจากกรมการจัดหางานพบแรงงานไทยเดินทางออกไปทำงานในต่างประเทศ 1.6 ล้านคน ส่งรายได้กลับเข้าประเทศไทย 8 หมื่นล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานปล่อยสินเชื่อสนับสนุนการไปทำงานต่างประเทศของ ธ.ก.ส.จนถึงปัจจุบัน ให้แรงงานไทยกู้แล้วทั้งสิ้น 9.6 หมื่นคน รวมวงเงินสินเชื่อ 1.26 หมื่นล้านบาท