วันนี้ (15 ก.ย.2559) พนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องประชุมความคืบหน้าในคดีนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตในการควบคุมของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อตรวจพยานหลักฐานและกำหนดทิศทางการสอบพยานเพิ่ม และในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.) จะเรียกตัวนายชยพล หวานชะเอม หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขัง และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ รองหัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขังมาสอบปากคำเป็นรอบที่สองหลังจากพบว่าทั้ง 2 คนให้ปากคำที่ไม่ตรงกันบางประเด็น
พ.ต.อ.มานะ เพราะช่วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องเปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับรายงานผลชันสูตรศพนายธวัชชัยฉบับทางการจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจแล้ว แต่ยังพบข้อสงสัยถึงร่องรอยบาดแผลการเสียชีวิตใน 7 จุด แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และหลังจากนี้จะทำหนังสือถึง พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอสอบถามข้อมูลที่สงสัยเพิ่มในวันที่ 21 ก.ย.2559
สำหรับไฟล์กล้องวงจรปิดในห้องควบคุมตัวของดีเอสไอยืนยันว่า ได้ส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางและเบื้องต้นอยู่ระหว่างรอผลการพิสูจน์ โดยคาดว่าใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์
สำหรับไฟล์กล้องวงจรปิดในห้องควบคุมตัวของดีเอสไอยืนยันว่า ได้ส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง และ เบื้องต้นอยู่ระหว่างรอผลการพิสูจน์ โดยคาดว่าใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 2 สัปดาห์
ข้อพิรุธ 7 จุดการเสียชีวิตของนายธวัชชัย นั้นคืออะไร ตรงกับข้อสังเกตของน้องชายผู้เสียชีวิตหรือไม่ ผลการชันสูตรศพจากสถาบันนิติเวชวิทยาคงจะชัดเจนพอที่ตอบทุกข้อสงสัยได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นที่คาดว่าเป็นจุดที่ยังมีความสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายธวัชชัย มีเช่น
-ข้อสังเกตของนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายผู้เสียชีวิต คือ รอยแผลที่เขาเห็นที่คอพี่ชายซึ่งเขาคิดว่าไม่สัมพันธ์กับถุงเท้าที่ใช้ผูกคอ เนื่องจากเป็นรอยแดงเล็กคล้ายรอยรัดของลวดหรือเชือก
-ความยาวของถุงเท้า ซึ่งนายชัยณรงค์กล่าวว่าถุงเท้าของพี่ชายสั้นกว่าที่ดีเอสไอนำมาแสดง ซึ่งประเด็นนี้ดีเอสไอเคยนำถุงเท้ามาทดสอบให้ดูว่าใช้ผูกคอได้จริง
-ถุงเท้าพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น ซึ่งเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่าเป็นดีเอ็นเอของหัวหน้าผู้คุมดีเอสไอที่ไม่เชื่อมโยงกับการตาย
-แพทย์โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะนำฟิล์มเอ็กซเรย์มาให้ตำรวจและบอกว่าซี่โครงของนายธวัชชัยแตกหัก แต่ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเคยบอกว่า การปฐมพยาบาลอาจจะทำให้ซี่โครงหักได้แต่ตับแตกไม่ได้แน่นอนและตับแตกที่เป็นประเด็นสำคัญที่สุด
-สถาบันนิติเวชวิทยาพบว่าผู้เสียชีวิตมีเลือดออกในช่องท้อง ตับแตกถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก แต่แพทย์มงกุฎวัฒนะบอกว่าการปฐมพยาบาลไม่ทำให้ตับแตก
ก่อนหน้านี้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของนายธวัชชัยที่แต่งตั้งโดยกระทรวงยุติธรรมให้ความเห็นว่า ผลชันสูตรต้องตอบได้ว่าตับแตกมากแค่ไหน มีเลือดออกมากถึงขนาดที่จะทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ และที่สำคัญคือตับแตกก่อนขาดอากาศหายใจหรือขาดอากาศหายใจก่อนแล้วค่อยตับแตก ผลชันสูตรก็ต้องตอบให้ได้เช่นกันว่า แล้วตับแตกได้อย่างไร เกี่ยวกับขั้นตอนการปฐมพยาบาลหรือไม่