เรื่องราวของ Mary Shepherd หญิงชราที่ใช้ชีวิตอยู่ในรถตู้ ซึ่งพอนำมาจอดไว้ฟรีๆ หน้าบ้านอยู่นานๆ เข้าก็กลายเป็นเพื่อนบ้านจำเป็นของ Alan Bennett ที่ต้องให้ความช่วยเหลือและเป็นเพื่อนคุย พล็อตเรื่องของภาพยนตร์ The Lady In The Van ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่เชื่อหรือไม่ว่าปีที่แล้วพอเข้าโรงแล้ว ในหมู่คนดูอายุ 55 ปีขึ้นไป หนังเรื่องนี้ฮิตมากกว่าหนัง James Bond ภาค Spectre ถึง 2 เท่า ทำให้หนังทุนต่ำเรื่องนี้ทำเงินไปไม่น้อยทีเดียว
เช่นเดียวกับเรื่อง The Second Best Exotic Marigold Hotel ที่คนชราชื่นชอบเช่นกัน พิสูจน์ด้วยเสียงตอบรับจากภาคแรกที่ดีจนต้องสร้างภาค 2 ตามออกมา แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของคนทำหนัง ที่เริ่มแคร์กลุ่มผู้ชมอาวุโสมากขึ้น หลังจากกลุ่มนี้กลายเป็นกลุ่มผู้ชมที่เติบโตขึ้นทั่วโลก เช่น ในอเมริกาและแคนาดาที่ 15% ของคนอายุ 60 ขึ้นไปเป็นคนที่เข้าโรงหนังเป็นประจำ
ขณะที่ปี 2013 สถาบันภาพยนตร์อังกฤษพบว่ากลุ่มผู้ชมวัย 45 ปีขึ้นไป ได้กลายเป็นตลาดผู้ชมที่ใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรก ด้วยสัดส่วน 36% ของผู้ชมทั้งหมด
ยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจเล็งกลุ่มผู้ชมสูงอายุ แต่พอทำออกมาแล้วผู้อาวุโสฮิตไปดูกันจนทำให้รายได้สูงเกินคาดไปด้วย เช่น Salmon Fishing In The Yemen ที่มีผู้ชมอายุมากกว่า 55 ปีขึ้นไปมาดูถึง 58% ของจำนวนผู้ชมทั้งหมด หรือ Anna Karenina ที่มีสัดส่วนผู้ชมสูงวัยถึง 52%
ขณะที่เจ้าของโรงหนังในอังกฤษเริ่มเผยทิศทางการปรับตัวเข้าหาคนชราด้วย เช่น Stefanie Fischer สถาปนิกที่สร้างโรงหนังอิสระมาหลายแห่งเผยว่า ตอนนี้เจ้าของโรงหนังต่างหันมาปรับที่นั่งให้กว้างสบายกว่าเดิม หรือในล็อบบี้ก็ใช้วัสดุบุผนังที่ช่วยให้ลูกค้าได้ยินการพูดคุยต่างๆ ได้ดีขึ้น
ส่วน Lyn Goleby ผู้จัดการโรงหนัง Picturehouse Cinemas บอกว่า ทางโรงได้เพิ่มของว่างที่คนชราน่าจะชอบ มากกว่าจะขนมขบเคี้ยวและน้ำอัดลม เนื่องจากผู้สูงวัยเหล่านี้มีแนวโน้มจะใช้เงินมากกว่าคนหนุ่มสาวนั่นเอง