วันนี้ (3 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้แม่น้ำน้อยจะยังคงเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านริมน้ำ 7 อำเภอ ในพื้นที่ลุ่มต่ำของจ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 18,000 หลังคาเรือน และบางจุดสูง 2-3 เมตร แต่เมื่อวานนี้เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้น เพราะระดับน้ำลดลง 10 เซนติเมตร หลังกรมชลประทานปรับลดการระบายน้ำเหลือเพียง 1,761 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมที่เคยระบาย 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
การผันน้ำเข้าทุ่งทำให้ชาวบ้านเริ่มดีใจที่เห็นน้ำค่อยๆลดลง แต่ยังมีความกังวลเพราะวันที่ 6 ตุลาคม กรมชลประทานจะระบายน้ำมาเพิ่ม เพราะยังมีฝนตกหนักในภาคเหนือตอนบน
พะเยา เนตรสว่าง ชาวบ้านหมู่ 7 ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าของใช้ต่างๆที่ยกเก็บไว้บนที่สูงก่อนหน้า อาจจะยังไม่เอามาเพราะยังไม่แน่ใจระดับน้ำที่จะมาอีกรอบ
“ยังไม่กล้าเอาลง เพราะเดี๋ยวน้ำมาอีกจะได้ไม่ต้องเก็บของเป็นครั้งที่ 2 เอาไว้แบบนี้ก่อน” พะเยา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจทุ่งรับน้ำของ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าขณะนี้ทุ่งป่าโมกเหลือนาข้าวประมาณ 175 ไร่ ซึ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตในวันที่ 10 ตุลาคม ขณะที่ทุ่งผักไห่ เหลือนาข้าว 8,000 ไร่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวหมดวันที่ 15 ตุลาคม
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้เปิดประตูระบายน้ำ ผันน้ำเข้าทุ่งผักไห่แล้ว คือประตูลาดชะโด ประตูผักไห่-เจ้าเจ็ด ประตูลาดชิด และประตูบางแก้ว ผันน้ำเข้าไปเก็บไว้แล้วบางส่วน เพราะยังเหลือข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว
ขณะที่แนวทางการแก้ไขปัญหาแบบยังยืน ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการจัดโซนนิ่งการเพาะปลูกในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ 4 ทุ่ง ให้ทำนาในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตให้เสร็จก่อนต้นเดือนกันยายน เพื่อให้ทุ่งรับน้ำสามารถใช้ได้จริงเมื่อเกิดวิกฤตน้ำท่วมปีนี้