นายเอกพล ตั๋น อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.ตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน เดินเท้าไปบนถนนสายเอเชีย 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ เป็นวันที่ 2 ในวันนี้ (24 ต.ค.2559) หลังออกเดินทางออกจาก จ.พิษณุโลก เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ประชาชนที่ทราบข่าวต่างนำน้ำดื่ม และอาหารมามอบให้ รวมทั้งฝากเงินนายเอกพล นำไปทำบุญ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
เช่นเดียวกับนายสมยศ ศรีปั้นพริ้ง อายุ 58 ปี เกษตรกรจาก จ.กำแพงเพชร ที่ออกเดินเท้าออกจาก ต.อ่างทอง อ.กำแพงเพชร เข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่วันนี้เดินทางถึง จ.นครสวรรค์แล้ว
ส่วนที่ จ.สุพรรณบุรี น.ส.ณรัชช้อย พิลึก ชาวบ้าน ต.เจ้าวัด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมด้วยนายสมจิตร และนายม้วน เอี่ยมแก้ว สองพี่น้องชาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ร่วมกันออกเดินทางมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมุ่งหน้าเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ ที่กรุงเทพมหานคร โดยมีชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างออกมาให้กำลังใจตลอดเส้นทาง
ยังมีชาวต่างชาติที่เลือกการเดินเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร นายฮัท ฮาร์ทมุทเดเลน ชาวเยอรมัน วัย 58 ปี แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยการเดินเท้าจาก จ.ยโสธร ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไปร่วมสักการะพระบรมศพ ที่พระบรมมหาราชวัง โดยวันนี้เดินเข้าสู่เขต อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และเริ่มมีอาการล้า และปวดบวมบริเวณข้อเท้า
ส่วนนายไมเคิล เดวิด แฮมมิล ชาวออสเตรเลีย ที่วันนี้แม้จะพบกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากฝนตกหนัก และบางช่วงอากาศร้อนจัด แต่ยังคงเดินเท้าอุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มุ่งหน้าตามเส้นทางถนนสาย 41 เข้ากรุงเทพมหานครเป็นวันที่ 6 ล่าสุดวันนี้เดินทางถึง ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว ซึ่งเป็นตำบลสุดท้ายก่อนเข้าสู่ จ.ชุมพร ท่ามกลางประชาชนที่ยังคงออกมาให้กำลังใจตลอดทาง ขณะที่บางส่วนนำน้ำดื่มและอาหารเพื่อใช้เป็นเสบียงตลอดการเดินทาง
