วันนี้ (28 ต.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ขณะนี้มีน้ำใช้การได้ร้อยละ 33 ซึ่งเป็นปริมาณน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งปฏิบัติการเติมน้ำในเขื่อน กว่า 30 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้กระทบกับการผลิตน้ำประปาเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลจากเขื่อน ระยะทาง 100 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน กรมชลประทาน แจ้งเกษตรในพื้นที่ชลประทานให้ปรับการเพาะปลูก โดยให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย เพราะน้ำใช้การในเขื่อนลำตะคอง ไม่เพีงพอสำหรับสนับสนุนทำนาปรังในฤดูแล้งหน้า
ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ล่าสุดมีน้ำใช้การได้ร้อยละ 40 ขณะที่เขื่อนลำแชะ มีน้ำใช้การได้เพียงร้อยละ 46
กรมชลประทาน จึงสั่งการให้การประปาส่วนภูมิภาค เร่งสูบน้ำท้ายเขื่อนและน้ำสาธารณะกักเก็บสำรองไว้ เพื่อผลิตน้ำประปาในช่วงฤดูแล้ง หลังจากน้ำไหลเข้าอ่างน้อย เนื่องจากฝนตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนมากกว่า ขณะเดียวกันชี้แจงว่า เขื่อนลำตะคลอง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน และเขื่อนลำแชะ จ.นครราชสีมา เหลือน้ำใช้การน้อยมาก ไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้งได้ จึงส่งเสริมให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย และใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเท่านั้น
ทั้งนี้ เกษตรกรที่ใช้ประโยชน์จากเขื่อนลำแชะ กังวลว่าถ้าชลประทานขอความร่วมมือให้งดการเพาะปลูกข้าวนาปรัง อาจหันไปหาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เพื่อหารายได้ทดแทนในช่วงที่ไม่ได้มีการทำนาปรังเหมือน 1-2 ปี ที่ผ่านมา