วันนี้ (20 พ.ย.2559) นายนรชิต สิงหเสนี โฆษก กรธ.เปิดเผยถึงการร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นองค์กรอิสระว่า ไม่เซ็ตซีโร่ หรือล้างระบบองค์กรอิสระ โดยการเพิ่มคุณสมบัติกรรมการในองค์กรอิสระ เช่น เคย หรือรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือเทียบเท่า เพื่อให้ผ่านงานด้านบริหาร พร้อมยอมรับว่าหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ประเด็นคุณสมบัติอาจกระทบกับกรรมการในองค์กรอิสระ
ด้านนายโคทม อารียา ในฐานะอดีต กกต.กล่าวว่า เชื่อว่า กรธ.จะกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในร่างกฎหมายลูกที่ว่าด้วย กกต.เกี่ยวกับคุณสมบัติตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ และคณะกรรมการสรรหาที่จะชี้ขาดคุณสมบัติผู้ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน จะใช้ปัจจัยอื่นประกอบการพิจารณา นอกเหนือจากเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ที่อาจไม่ใช่หลักประกันประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นในองค์กรอิสระ
ขณะเดียวกัน นายโคทมยังไม่เห็นด้วยกับการยุบ กกต.จังหวัด ด้วยเหตุถูกแทรกแซง หรือสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะสามารถสร้างกลไกเพื่อตรวจสอบการทำงานของ กกต.จังหวัดได้ เช่นเดียวกับการกำหนดโทษประหาร กรณีการซื้อขายตำแหน่งในร่างกฎหมายลูกที่ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหา
ขณะที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาใหม่ตามร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ หลังมีความเห็นต่างอย่างชัดเจน ระหว่างนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.กับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.
มีรายงานว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.มีคำสั่งเป็นการภายในขอให้สมาชิก สนช.ไม่เดินทาง หรือลาการประชุมระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายนถึง 2 ธันวาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมร่วมประชุม สนช.ที่อาจมีวาระพิเศษ โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิป สนช.ระบุ ประธาน สนช.ยังไม่มีคำสั่งเรื่องการลาของสมาชิกอย่างเป็นทางการ แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยระหว่างสมาชิกถึงเรื่องนี้