เกือบ 2 เดือนแล้วที่นายมูดอ กาเจมูซอ ชาวตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ต้องกังวลในสวัสดิภาพของ นางดอยะ กาเจมูซอ ภรรยาวัยชรา หลังถูกควบคุมตัวพร้อมกับผู้สูงอายุคนอื่นๆ อีก 20 คนในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ในความผิด พรบ.การเข้าเมือง และพรบ.ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่เมืองยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย
นายมูดอ กล่าวว่า ภรรยาถูกชักชวนจากคนที่รู้จัก ซึ่งรู้จักนายหน้าอีกต่อหนึ่งให้ไปหางานทำที่มาเลเซีย โดยภรรยาได้เดินทางไปทำงานมาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งจะต้องจ่ายเงินค่าเดินทางตั้งแต่ 500-2,000 บาท และเมื่อเดินทางไปถึงต้องออกเร่ขายข้าวเกรียบตามสถานที่ต่างๆ ตั้งแต่เวลา 08.00-01.00 น.ของอีกวันหนึ่ง ซึ่งเมื่อกลับมาถึกที่พักก็ต้องนั่งบรรจุถุงข้าวเกรียบด้วยตัวเอง โดยผู้ขายจะต้องใช้ความชราในการเรียกความเห็นใจจากผู้ซื้อ เมื่อได้เงินมาแล้วก็ต้องหักให้นายหน้าประมาณ ร้อยละ 80 แต่รายได้จากการเร่ขายเกรียบที่ไม่ต่ำหมื่นบาท ทำให้หลายคนยอมกลับไปทำงานที่มาเลเซียอีกครั้งตามคำชักจูงของนายหน้า
สำหรับการเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันของญาติผู้เสียหายในหลายพื้นที่วันนี้(21 พ.ย.) ยังพบปัญหาในการดำเนินคดี เนื่องจากบางพื้นที่ไม่เคยเกิดคดีในลักษณะนี้มาก่อน และจากการสอบสวนเบื้องต้นอาจจะไม่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่เต็มใจเดินทางไปกับกลุ่มนายหน้า และไม่ได้มีการบังคับขู่เข็น อย่างไรก็ตามพบว่าหลังการถูกควบคุมตัวในมาเลเซีย กลุ่มนายหน้าบางคนยังเรียกรับเงินจากบางครอบครัวรายละ 60,000-70,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นกับทางการมาเลเซียเพื่อให้ปล่อยตัว
ขณะที่การช่วยเหลือคนไทยทั้ง 21 คน ล่าสุดกองการต่างประเทศ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ประสานไปยัง สถานทูตไทยประจำประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการนำญาติไปเยี่ยมผู้ที่ถูกคุมตัวภายในสับดาห์นี้ ในส่วนของคดีความ เบื้องต้นทราบว่า คนไทยทั้ง 21 คนถูกกันไว้เป็นพยานเพื่อดำเนินคดีค้ามนุษย์กับนายหน้า ซึ่งหากสอบปากคำเสร็จสิ้น คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัว แต่อาจกินเวลานานไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้า เพราะการสอบปากคำของศาลแต่ละครั้ง สามารถทำได้เพียง 2-3 คนเท่านั้น
ปัจจุบันทางการมาเลเซียมีการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์อย่างหนักในประเทศทำให้แรงงานไทยที่เดินทางเข้ามาเลเซียโดยไม่ขออนุญาติในการทำงานจึงเสี่ยงต่อการถูกจับกุม โดยเฉพาะคนไทยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางไปทำงานในมาเลเซียหลายแสนคน