วันนี้ (23ธ.ค.2559) นายหว่อง คำ-ซิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาลกลางของฮ่องกงว่า รัฐบาล เป็นห่วงเรื่องปัญหาการลักลอบล่าช้างในแอฟริกา โดยเห็นฮ่องกงจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของความพยายาม และการปฏิบัติภารกิจของประชาคม ระหว่างประเทศในการยกระดับการให้ความคุ้มครอง จึงเตรียมแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญ ญัติว่าด้วยการคุ้มครองสายพันธุ์สัตว์ และพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เพื่อให้มีแผน 3 ขั้นตอนที่จะค่อยๆยุติการค้างาช้างในเกาะฮ่องกงด้วยการใช้กฎหมายฉบับเดียวไปเลย โดยจะยื่นให้สภานิติบัญญัติพิจารณาในช่วงครึ่งแรกปี 2560
การประกาศจุดยืนของรัฐบาลฮ่องกงครั้งนี้ อเล็กซ์ ฮ็อฟฟอร์ด นักรณรงค์เพื่อสัตว์ป่าของ WildAid (ไวลด์เอด) ได้กล่าวยกย่องรัฐบาลฮ่องกงที่ดำเนินการแบบเป็นรูปธรรมเพื่อยุติการค้างาช้างในพื้นที่ และหวังว่าจะสามารถดำเนินการได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และขอเรียกร้องมายังประเทศไทยและญี่ปุ่นให้หยุดซื้องาช้างและปิดตลาดการค้างาช้างในประเทศลงด้วย
ขณะที่ แหล่งข่าวของรัฐบาลฮ่องกง กล่าวว่า รัฐบาลเสนอที่จะเพิ่มโทษทางอาญา สำหรับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าให้ สูงสุดถึง 10 ปี ซึ่งเชื่อว่านานพอที่จะกระตุ้นให้บทบัญ ญัติว่าด้วยองค์กรอาชญากรรม และอาชญากรรมอุกฉกรรจ์ เกิดผลกระทบต่อเนื่องได้ เพราะตามบทบัญญัติดังกล่าว สำนักงานตำรวจฮ่องกงสามารถใช้อำนาจการสอบสวนของหน่วยอาชญากรรมทางการค้าและหน่วยองค์กรอาชญากรรม และสมาคมลับได้อย่างเต็มที่ จึงจะสามารถทำลายเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง และทำธุรกิจการค้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าแบบผิดกฎหมายกระจายอยู่ทั่วเกาะแห่งนี้มานาน
เนื่องจากทุกวันนี้ยังไม่มีการจับกุมตัวการใหญ่ แม้แต่รายเดียวในข้อหาทำธุรกิจเครือข่ายองค์กรลักลอบค้าสัตว์ป่าแบบอุกฉกรรจ์ซึ่ งกำลังทำให้สัตว์สายพันธุ์สำคัญๆตกอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์