หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 5/2560 กำหนดให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจค้น ซึ่งสร้างภาวะความกดดันและความตรึงเครียดให้เกิดขึ้นทั้ง เจ้าหน้าที่ พระและศิษยานุศิษย์ โดยล่าสุดนายอนวัช ธนเจริญณัช อายุ 64 ปี ผูกคอเสียชีวิตที่เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณตลาดกลางคลองหลวง เมื่อค่ำวานนี้ (25 ก.พ.) เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 หลังใช้คำสั่งมาได้ 10 วัน
ขณะที่ในวันนี้ (26 ก.พ.) พระสงฆ์ 300 รูปขอบิณฑบาตรให้นายกรัฐมนตรียกเลิกมาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย เนื่องจากภาพเหตุการณ์ที่้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างพระสงฆ์กับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อพุทธศาสนา โดยเรียกร้องให้แก้ปัญหาด้วยสันติวิธีซึ่งสวนทางกับแนวคิดของรัฐบาลที่ยืนยันให้มาตรา 44 ต่อไป เพื่อเปิดทางและอำนวยความสะดวกให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปตรวจสอบเพราะต้องตอบคำถามรัฐบาลและสังคมจึงไม่มีเหตุผลที่วัดพระธรรมกายจะขัดขวาง
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต ระบุว่า รัฐบาลต้องควบคุมให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามบรรทัดฐานของวิชาชีพจัดสรรกำลังพลอย่างเหมาะสมด้วยการผลัดเปลี่ยนกำลัง เพื่อไม่ให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่เกิดความเครียดสะสม และต้องทบทวนการใช้กำลังเท่าที่จำเป็นเพราะหากทั้ง 2 ฝ่ายใช้กำลังคน เป็นที่ตั้งเหตุการณ์จะไม่จบ ขณะที่ กลุ่มศิษยานุศิษย์ต้องตั้งสติและเคลื่อนไหวโดยสันติวิธี ส่วนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
นายแพทย์ยงยุทธ ยังระบุว่า การนำเสนอข่าวโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการนำเสนอข่าวนั้น และต้องเป็นไปตามบรรทัดฐานการรายงานข่าวเช่นเดียวกับสื่ออื่นๆ