วันนี้ (27 ก.พ.2560) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมเรียกแกนนำปลุกระดมมวลชนวัดพระธรรมกาย ประมาณ 30-40 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ขอให้ดีเอสไอเป็นผู้ชี้แจงยืนยันว่าตำรวจมีการตรวจสอบการข่าวกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมปลุกระดมมวลชนทั้งในและนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีมวลชนเข้ามาเพิ่ม
ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่สอดส่องเรื่องการนำพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ เข้าพื้นที่เพิ่มเติม ส่วนกำลังตำรวจที่รักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบวัดพระธรรมกายจะมีการสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ แทนกำลังพลที่อ่อนล้า พร้อมเชื่อมั่นว่าพระเทพญาณมหามุนี "พระธัมมชโย" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังอยู่ในวัดยืนยันตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) ระบุว่า จะไม่อนุญาตให้ประกันตัว พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันท์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกทหารควบคุมตัวได้ ขณะขับรถเข้าไปบริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ ใกล้วัดพระธรรมกายเมื่อคืนนี้ พร้อมยึดเสื้อเกราะ มีด และป้ายข้อความแสดงความเสียใจต่อกรณีการเสียชีวิตของ นายอนวัช ธนเจริญณัฐ อายุ 64 ปี ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกคำสั่ง คสช. มาตรา 44 ที่ประกาศให้บริเวณโดยรอบ และวัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ หลังมีการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมระบุว่าจากการตรวจสอบพบมีประวัติเคยบวชที่วัดพระธรรมกายด้วย ส่วนเสื้อเกราะและยุทธภัณฑ์ จำเป็นจะต้องตรวจสอบที่มาต่อไป