วันนี้ (14 มิ.ย.2560) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินและการปลูกสร้างคฤหาสน์ 2 หลังบนสันเขาในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าควนโต๊ะหลา และป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมเอกสารหลักฐาน ก่อนเสนอให้เป็นคดีพิเศษ โดยจะเร่งดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล รวมถึงนายบุญชัย เบญจรงคกุล ซึ่งมีรายชื่อเกี่ยวข้องอยู่ด้วย
ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีบ้านพักในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ว่าการดำเนินการพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของบ้าน และที่ดินบนสันเขาและปลูกสร้างอย่างผิดกฎหมายหรือไม่ ดีเอสไออยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย และอยู่ระหว่างหาข้อมูลหลักฐานเรื่องที่ดิน จากนั้นจะรายงานให้ทราบต่อไป
ขณะเดียวกันยืนยันว่า ดีเอสไอกำลังเร่งติดตามตัวพระธัมมชโยตามหมายจับ และเชื่อว่าพระธัมมชโยไม่ได้อยู่ในวัดพระธรรมกายแล้ว และหากพบเบาะแสที่ใด จะต้องเข้าดำเนินการตรวจค้นทันที ส่วนจะหลบหนีไปต่างประเทศหรือไม่นั้น ทราบว่าพระธัมมชโยไม่มีหนังสือเดินทาง
“กรมป่าไม้” ร้องทุกข์คฤหาสน์หรูบนสันเขาเป็นคดีพิเศษ
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เพิ่งได้รับการประสานจากทางดีเอสไอ ให้กรมป่าไม้เป็นหน่วยงานในการร้องทุกข์เพื่อให้การบุกรุกสร้างคฤหาสน์หรู 2 หลังบนสันเขาป่าควนโต๊ะหลา และป่าแหลมซำ จ.พังงา เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีบุกรุกพื้นที่ป่าสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้โดยไม่ต้องขอให้คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับคดี คาดว่าหลังจากการรวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ แล้วเสร็จ กรมป่าไม้จะเข้าไปร้องทุกข์ทันที
โดยกรณีของนายบุญชัย มีการอ้างครอบครองเอกสารสิทธิ์ นส.3 ก จำนวน 39 ไร่ซึ่งออกในปี 2520 ก่อนการประกาศป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ. 2527 แต่อยู่กลางไข่แดงของผืนป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งตามกฎหมายของที่ดินก็ห้ามออกบนพื้นที่ภูเขาอยู่แล้ว กรณีนี้ชัดเจนว่าเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน
นอกจากนี้ ยังตรวจสอบแปลงเอกสารสิทธิ์บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงที่ถูกตีแปลงเป็นเอกสารสิทธิในระวางภาพถ่ายทางอากาศอีกหลายแปลง ซึ่งเตรียมขยายผลว่าใครเป็นผู้ครอบครองอีกนับพันไร่ และเชื่อว่าเป็นการออกเอกสารสารสิทธิ์โดยมิชอบอย่างแน่นอน เรื่องนี้ต้องประสานให้กรมที่ดินช่วยตรวจสอบด้วย