ดินที่ถูกกัดเซาะและพังถล่มลงมาจากด้านล่างของพื้นถนน ก่อนไหลลงสู่หุบเหวลึก ทำให้ตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงจังหวัดพังงา ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างทางเบี่ยง เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ใช้เส้นทางเชื่อมระหว่าง จ.พังงา และ จ.สุราษฎร์ธานี สามารถเดินทางไปมาได้ตามปกติอีกครั้ง หลังน้ำป่าได้พัดพาถนนทางลงเขาสก บ้านท่าหัน หมู่ที่ 2 ต.รมณีย์ อ.กะปงขาด จนไม่สามารถใช้การได้ แต่การสร้างเส้นทางเบี่ยงของเจ้าหน้าที่ก็พบอุปสรรค เนื่องจากฝนที่โปรยปรายมาเป็นระยะ ทำให้ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำรถแบ็คโฮมาเกลี่ยดินเพื่อสร้างทาง ก็จะถูกน้ำจากภูเขาอีกฝั่งหนึ่งชะล้างทันที จึงต้องนำทรายหยาบมาผสมกับดิน เพื่อสร้างแนวป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน และนำท่อมาใช้ระบายเส้นทางน้ำไม่ให้น้ำที่ไหลลงมาจากเขาชะล้างหน้าดินในเส้นทางเบี่ยง
การพังทลายของเส้นทางหลวงครั้งนี้ ถูกวิเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ว่าอาจเกิดจากการชะล้างชั้นดินจากด้านล่างของพื้นถนน ซึ่งเป็นเหวลึก เนื่องจากมีการอุ้มน้ำจำนวนมาก โดยน้ำได้ค่อยๆกัดเซาะและพังลงมาโดยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจะมีการสร้างเส้นทางเบี่ยงไปพลางก่อนแต่การซ่อมแซนถนนที่เสียหายในระยะยาว จะต้องทำการศึกษาด้านธรณีวิทยาของพื้นที่บริเวณนี้อย่างละเอียด เพื่อวิเคราะห์แนวเลื่อนและแนวกัดเซาะของดิน ก่อนจะขออนุมัติงบประมาณในการซ่อมแซม ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายเดือน
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้เส้นทางที่ตัดผ่านเขาสก จาก จ.พังงา ไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี สายทางมีพื้นที่อีกหลายจุดที่ยังเกิดความเสี่ยงในการพังทลาย โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นและลงเขา เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาดินซึ่งมีการอุ้มน้ำจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งสำรวจจุดเสี่ยงเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบพื้นดินด้านล่างของหุบเหวตลอดแนวถนน ก่อนจะนำป้ายสัญลักษณ์แจ้งเตือนให้ใช้ความระมัดระวังมาติดตั้งตลอดแนวถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ