เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.2560) นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงการทดลองเดินรถประจำทางรูปแบบใหม่ตามแผนปฏิรูปรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อวานนี้ ว่า การทดลองเดินรถ 8 เส้นทาง จะวิ่งควบคู่ไปกันรถเส้นทางเดิม ใช้เวลาทดลอง 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมจนถึง 15 กันยายนนี้ โดยจะประเมินผลวันต่อวัน สำหรับการปฏิรูปเส้นทางเดินรถ 269 เส้นทาง จะใช้เวลาเปลี่ยนผ่าน 2 ปี ดังนั้น ในช่วงนี้จะยังใช้ค่าโดยสารในอัตราเดิม
ทั้งนี้ หลังจากปฏิรูปแล้วมีโอกาสจะปรับขึ้นค่ารถเมล์ทั้งระบบ เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน แต่หากคุณภาพยังไม่ดีขึ้น การขึ้นราคาจะเป็นภาระกับประชาชน ขณะนี้อยู่ระหว่างว่าจ้างที่ปรึกษา สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เพื่อศึกษาแนวทางปรับราคาค่าโดยสารให้เหมาะสมต่อไป คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 10-12 เดือน
ด้านนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟรุ่นใหม่ 115 คัน เฉลี่ย 100-200 บาทต่อที่นั่ง ทั้ง 4 เส้นทางที่เปิดให้บริการ คือเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-หนองคาย และกรุงเทพฯ-หาดใหญ่
ส่วนในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) กรมเจ้าท่าได้ประกาศปรับปรุงอัตราค่าโดยสารเรือประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยให้เรือด่วนเจ้าพระยาและเรือคลองแสนแสบปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อคนต่อเที่ยว ส่วนเรือโดยสารข้ามฟากเพิ่มขึ้น 50 สตางค์ต่อคนต่อเที่ยว เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น