ความคืบหน้าคดีที่ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “เมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 หลังจากกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้ชันสูตรศพ และระบุในใบรับรองการเสียชีวิตว่า เกิดจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ทำให้ครอบครัว ต้องนำร่างของ นายภคพงศ์ ผ่าพิสูจน์ที่ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยพบว่า กระดูกซี่โครงหัก และอวัยวะภายในร่างกาย ทั้ง หัวใจ กระเพาะ ตับ ปอด และสมอง หายไป
ล่าสุดวันนี้ นายพิเชษฐ์ พร้อมด้วย นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ ครอบครัวให้สัมภาษณ์พิเศษ ไทยพีบีเอส ระบุว่า ผลสอบสวนที่ทางกองทัพไทย แถลงสรุปเมื่อกลางเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว และเชิญให้ครอบครัวเข้าพบเมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ ครอบครัวตัญกาญจน์ ยังไม่ได้เอกสารสรุปผลสอบสวนจากทางกองทัพไทย ซึ่งเป็นรายละเอียดที่เป็นทางการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายภคพงศ์ และเป็นเอกสารที่มีนัยสำคัญ ที่จะใช้ประกอบข้อมูลส่งให้กับพนักงานสอบสวน โดยทางกองทัพไม่ได้ชี้แจงเหตุผลว่า เหตุใดจึงยังส่งมอบให้ไม่ได้และที่ผ่านมาพบว่า พบว่าอุปสรรคที่ทำให้เกิดความล่าช้า คือ การได้ข้อมูลจากฝ่ายเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.สุธี แพทย์รังสี ทนายความ ครอบครัว"ตัญกาญจน์"ทนายความครอบครัวตัญกาญจน์ เห็นว่า ขณะนี้คดีมีความล่าช้า แม้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร บ้านนา จ.นครนายก สอบปากคำบุคคลไปแล้วประมาณ 40 ปาก ที่เกี่ยวกับสำนวนการชันสูตรศพ ส่วนการตรวจสอบดีเอ็นเอของนายภคพงศ์ ตามที่พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร เมืองนครนายก ได้ส่งศพนายภคพงศ์มาชันสูตร เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2560
ปรากฏว่า คณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่า เนื้อเยื่อจากอวัยวะต่างๆ มีสารพันธุกรรมในปริมาณและคุณภาพที่ไม่เหมาะสมในการตรวจวิเคราะห์ต่อไป ทำให้ไม่สามารถระบุแบบสารพันธุกรรม เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นของบุคคลใดได้