ติดปลอกคอศึกษาพฤติกรรม "เสือโคร่ง" ห้วยขาแข้ง

วันนี้(30 ก.ค.2561) นายไพศาล สถิตวิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นางอัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ ว่า การปฏิบัติงานตามโครงการนิเวศเสือโคร่ง ระหว่างวันที่ 13-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการ โดยชุดปฏิบัติการ สามารถใส่ปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียม ให้เสือโคร่งเพศเมีย วัยรุ่น ในบริเวณเส้นทางไปหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยน้ำตื้น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งได้เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยทำสำเร็จก่อนวันเสือโคร่งโลกที่ตรงกับ 29 ก.ค.ของทุกปี 

สำหรับการศึกษาขนาดพื้นที่หากินของเสือโคร่งดําเนินการในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งจังหวัดอุทัยธานี โดยการดักจับเสือโคร่ง ใส่ปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียม เพื่อประเมินขนาดพื้นที่หากินของเสือโคร่งเพื่อใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์เสือโคร่ง โดยปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียมที่ได้ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าจะรับตําแหน่งของการเคลื่อนที่ของเสือโคร่งทุกๆ 1 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าไม่มีอุปสรรคในการรับ-ส่ง สัญญาณผ่านดาวเทียมจะทําให้สามารถทราบการเคลื่อนที่ของเสือโคร่งได้ถึง 24 ตําแหน่งใน 1 วัน

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช กล่าวว่า ขณะนี้ภาพรวมประเทศไทยมีเสือโคร่งอยู่  150 - 200 ตัว โดยพบหนาแน่นมากที่สุดบริเวณแนวเทือกเขาตะนาวศรี ผืนป่าตะวันตก และพบกระจายในบางพื้นที่ของผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

ในรอบปีที่ผ่านมาได้มีการพบร่องรอยเสือโคร่งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์แหล่งใหม่ที่ยังไม่เคยพบมานานมากแล้วได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี ดังนั้นจึงชัดเจนว่าประเทศไทยเป็นผู้นำและประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์เสือโคร่ง ซึ่งประเทศไทยมีแผนฟื้นฟูประชากรเสือโคร่งแห่งชาติตามมติที่ประชุม ซึ่งมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนประชากรเสือโคร่งในพื้นที่ให้เพิ่มมากขึ้น 50% ภายใน พ.ศ.2565