ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บีทีเอส" ขบวนใหม่ถึงไทยพร้อมวิ่งปลายปีนี้

เศรษฐกิจ
6 ส.ค. 61
18:15
640
Logo Thai PBS
"บีทีเอส" ขบวนใหม่ถึงไทยพร้อมวิ่งปลายปีนี้
รถไฟฟ้าบีทีเอสขบวนใหม่ถึงไทยแล้ว โดยจะนำมาให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ คาดว่าจะเริ่มใช้บริการได้ในเดือน ธ.ค.นี้ รองรับผู้โดยสารเพิ่มได้อีกร้อยละ10 พร้อมเตรียมทดสอบระบบขบวนใหม่ภายใน 2 เดือนข้างหน้า

วันนี้ (6 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าขบวนแรกจากบริษัทซีเมนส์จำกัด ได้ถูกส่งมอบให้กับ บีทีเอส ซึ่งขบวนรถดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ จำนวน 46 ขบวน 

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด มหาชน กล่าวว่า ภายใน 2 เดือนข้างหน้า จะเริ่มทดสอบระบบของขบวนรถใหม่ และคาดว่าจะรับมอบรถครบทั้ง 22 ขบวนได้ภายในเดือนเม.ย.2562 เพื่อนำมาให้บริการในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนธ.ค.นี้

 

 

ส่วนอีก 24 ขบวน ที่สั่งซื้อจากบริษัทจาก CRC ของจีน คาดว่าจะเริ่มส่งมอบปลายปีนี้ และจะครบทั้งหมดช่วงปลายปี 2562 เพื่อรองรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือและเขียวใต้

ขบวนรถไฟฟ้าใหม่นี้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น เพิ่มราวจับเป็น 3 ราว และปรับเก้าอี้บางส่วนให้เป็นเบาะสำหรับยืนพิง หรือเพิร์คซีท (perch seat) สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น

สำหรับกรณีการคิดค่าโดยสารในสถานีที่ยังไม่เปิดให้บริการ ยังชี้แจงตามเดิมว่า การคิดค่าโดยสารของบีทีเอสนั้น คิดตามระยะทางไม่ได้คิดตามสถานีที่รถไฟฟ้าวิ่งให้บริการซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดเดิมอยู่แล้ว

 

 

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้บีทีเอส อยู่ระหว่างปรับปรุงตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารทั้งหมดกว่า 200 ตู้ให้เป็นตู้จำหน่ายแบบทัชสกรีน และร่วมมือกับธนาคารในการปรับระบบให้รองรับการจ่ายเงินผ่าน QR CODE ใช้ได้ในช่วงปลายปีนี้ก่อนที่จะทำระบบบัตร Rabbit pass ให้เป็นตั๋วร่วมระบบ EMV ซึ่งสามารถเข้าใช้ในระบบขนส่งทั้งหมดได้ตามมาตรฐานของบัตรแมงมุม

ส่วนปัญหาการปรับปรุงระบบอาณัติสัญญาณ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนเปิดให้บริการสายสีเขียวใต้ส่วนต่อขยายในเดือนธ.ค.นี้

 

สำหรับเหตุการณ์ประตูรถไฟฟ้าเปิดเองเกิดจากการขัดข้องของประตู ล่าสุดได้ให้บริษัทซีเมนส์ทำการตรวจสอบแล้ว ซึ่งทางซีเมนส์ยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง