วันนี้(14 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในเขตกทม.และปริมณฑล ที่เกินค่ามาตรฐาน จนอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จนเกิดกระแสในโซเชียลมีเดียติดแฮทแท็ก #ฝุ่นละออง #ฝุ่นกรุงเทพ #PM25
ทั้งนี้ในทวิตเตอร์"@greenpeaceth" กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ประเทศไทย) เปิดเผยสถิติการจัดอันดับเมืองหลวง ที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกพร้อมด้วยแฮชแท็ก#ขออากาศดีคืนกลับมา และ #RightToCleanAir โดยระบุข้อความว่า"กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 โดยในเช้าวันนี้ไทยอยู่ที่อยู่ในลำดับที่ 8 ของเมืองที่คุณภาพอากาศเลวร้าย
ขณะที่มีรายงานว่ามีประชาชนเริ่มหาซื้อหน้ากากอนามัย N 95 และหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติป้อง กันฝุ่น PM 2.5 จำนวนมาก เช่น ตามร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อ และห้างค้าปลีก จนเกิดกระแสว่าหน้ากากป้องกันฝุ่นไม่พอขาย
แห่ซื้อหน้ากากกันฝุ่นพิษจนขาดตลาด
โดยทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจห้างค้าปลีกชื่อดัง ที่สั่งหน้ากากอนามัย N 95 มาขายทางประชาสัมพันธ์แจ้งว่าของขาด ทั้งแบบปกติ เหลือน้อยและของหมดมารุ่นและกำลังสั่งมาขายเพิ่มเติม หลังพบว่ามีคนมาหาซื้อจำนวนมาก
ด้านน.ส.กานดา แย้มบุญเรือง หนึ่งในผู้ใช้หน้ากาก N 95 ไว้ บอกว่า เนื่องจากป่วยเป็นโรคภูมิแพ้และมีความอ่อนไหวเสี่ยงกับฝุ่นมลพิษตัวนี้ ช่วงแรกๆ คิดว่าที่เห็นเป็นหมอกลง แต่พอมารู้ว่าเป็นฝุ่นเกินมาตรฐาน จึงได้หาซื้อหน้ากากอนามัย N 95 มาเตรียมไว้ โดย 1 ชุดจะมี 2 ชิ้นราคา 79 บาท มีคำแนะนำว่าให้ใช้แค่วันเดียวแล้วต้องทิ้ง
ใส่หน้ากากอนามัย N 95 แล้วทำให้มั่นใจมากขึ้น เพราะทำงานในพื้นที่เสี่ยง โดยเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.)ไปบริเวณเขตดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่วิกฤตสีแดง จึงใช้ N 95 รู้สึกโล่งขึ้น ซึ่งพยายามเตือนทุกคนให้ใส่หน้ากากป้องกัน แต่บางคนกลับเพิกเฉย
ก่อนหน้านี้ ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผู้อำนวยการสำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค ระบุว่า ปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอนที่เกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้มีการแจ้งเตือนในระดับสีส้ม
สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องออกนอกบ้านและเป็นกลุ่มเสี่ยงมากๆ แนะนำต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเราเองว่า ในแต่ละวันเราใช้เวลานอกบ้านมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่าเราต้องทำงานนอกบ้านตลอดเวลา
ในช่วงนี้ที่สภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม ก็ควรจะหาหน้ากากอนามัยที่ความที่เหมาะสมคือต้องเป็น N 95 เพราะขนาดของรูที่กรองอากาศจะเล็กที่สุด คือจะสามารถกันฝุ่นขนาด 2.5 ได้ เพราะรูหน้ากากมีขนาด 0.3 ไมครอน
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ต้องออกนอกบ้านบ้าง แต่ไม่ถึง 8 ชั่วโมง ก็ควรจะรีบไปรีบมา ไม่อยู่ข้างนอกนาน กรณีคนที่ไม่มีเงินซื้อหน้ากาก ก็สามารถใช้ผ้าชุบน้ำปิดปากปิดจมูกก็พอจะช่วยได้ แต่ต้องไม่อยู่นานเกินไป
เปิดศูนย์เฝ้าระวังโรคจากฝุ่นเกินมาตรฐาน
ขณะที่ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มอบให้กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ กรมอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ และให้ความรู้ในการป้องกันตนเองจากสภาพอากาศที่มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานในพื้นที่กทม.และปริมณฑลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.2561
นอกจากนี้ ยังเปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนและวิธีป้องกันตัวที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักระบาดวิทยา ในโรงพยาบาลเครือข่ายกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 3ส.ค.2561–7 ม.ค.นี้ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วย 3 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวังสูงขึ้นผิดปกติ หรือพบเป็นกลุ่มก้อนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้แก่ หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด และไม่มีรายงานผู้ที่มีอาการรุนแรง
ด้านพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ป่วยด้วยโรคประจำตัว เช่นโรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ หากออกจากบ้านให้สวมหน้ากากป้องกันและสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจมีเสียงวี๊ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะขอให้ไปพบแพทย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอ "ฝนหลวง" ช่วยดับฝุ่นพิษคลุมเมืองกรุง
วันนี้ยังมีฝุ่น! PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 18 พื้นที่ริมถนน
72 ชม.เฝ้าระวัง "ผู้ป่วยเมือง"ผลกระทบฝุ่น 2.5 ไมครอน