กสทช.ส่งหนังสือทวง ธ.กรุงเทพจ่ายหลักทรัพย์ค้ำประกันแทน บ.ไทยทีวี ภายใน 30 วัน 
วันนี้ (17 มิ.ย.2558) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ได้ลงนามหนังสือเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.2558) แจ้งถึงธนาคารกรุงเทพในฐานะผู้ค้ำประกันหลักทรัพย์ (แบงค์การันตี) ให้กับ บริษัทไทยทีวีเพื่อขอธนาคารนำส่งแบงค์การันตีให้สำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วัน นับจากนี้ เนื่องจากบริษัท ไทยทีวี ไม่ได้นำส่งค่าธรรมเนียมประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล ได้ทันระยะเวลาที่ กสทช.กำหนด ไว้ภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2558
สำหรับเนื้อหาที่สำนักงานแจ้งหนังสือไปถึงธนาคารกรุงเทพ ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2558 มีเนื้อหาครอบคลุมประเด็นที่ว่าทาง สำนักงานกสทช.ได้แจ้งให้ บริษัทไทยทีวีให้ทราบว่า ให้ไปชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการภายใน 15 วัน แต่ทางบริษัทไทยทีวีไม่ได้นำเงินไปชำระ
ดังนั้นในฐานะที่ธนาคารกรุงเทพซึ่งเป็นผู้ออกหลักทรัพย์ค้ำประกัน (แบงค์ การันตี) รับรองให้กับ บริษัทไทยทีวี สำนักงาน กสทช. จึงขอให้ธนาคารกรุงเทพ นำเงินมาชำระแทนบริษัทไทยทีวีตามแบงค์การันตี ที่ธนาคารรับประกันกับสำนักงานกสทช.ไว้ ภายในระยะเวลา 30 วัน และในส่วนที่ขาดอีก ที่ สำนักงาน กสทช.จะเรียกต่อไป
ดังนั้นกระบวนการต่าง ๆ ถือว่าเสร็จสิ้นในขั้นตอนของ สำนักงาน กสทช.แล้ว จากนี้จะรอขั้นตอนตามกฏหมายที่ต้องใช้ระยะเวลา 30 วัน ซึ่งจากนี้จะขึ้นอยู่กับทางธนาคารว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยธนาคารถือว่าไม่ใช่คู่สัญญาหรือผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจาก กสทช. เป็นแต่เพียงผู้วางหนังสือค้ำประกันให้บริษัทไทยทีวี ซึ่งหากธนาคารต้องการขอดูสัญญาเพื่อประกอบการพิจารณาว่า จะจ่ายแบงค์การันตีให้ สำนักงาน กสทช.หรือไม่ นั้น ก็มีสิทธิ์ขอดูจากทางบริษัทไทยทีวีได้ โดยไม่จำเป็นต้องขอดูจากสำนักงาน กสทช. ยกเว้น มีประเด็นที่ธนาคารสงสัย ก็สามารถทำหนังสือสอบถามมาถึง สำนักงาน กสทช.ภายหลังได้
"การที่จะบอกว่าบริษัทมีภาวะที่ดีที่แข็งแกร่ง มันไม่เกี่ยวกัน แต่ภาวะที่แข็งแกร่งเหมือนกันคนรวยไม่ชำระเงิน ก็ต้องบังคับให้เขาจ่ายเงิน วันนี้ผมทำหน้าที่ปกป้องทรัพย์สินของราชการก็ต้องเอาเงินมาชำระแค่นั้นเอง แต่ผมไม่ได้ไปรับรู้ประเด็นที่ว่าบริษัทจะมีฐานะที่แข็งแกร่ง แต่เขาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของเรา เงื่อนไขที่เข้ามาร่วมประมูลกับเราแค่นั้นเอง แต่ที่คุณบอกว่า การที่เราไม่ทำตามเงื่อนไขอะไรก็ไปฟ้องศาลได้ มันเป็นคนละประเด็นกัน ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ หากธนาคารยังไม่ชำระเงินก็ค่อยว่ากัน ต้องรอให้พ้น 30 วันไปก่อน เพราะยังมีกระบวนการที่ต้องว่ากันตามขั้นตอน
แต่ส่วนตัวคิดว่าแบงค์จะเข้าใจระบบอยู่แล้วว่าต้องดำเนินการอย่างไร ไม่เช่นนั้นแบงค์การันตีที่ออกให้กับการประมูลของหน่วยงานราชการทั้งหมด เวลามีผิดนัดการชำระเงิน ส่วนราชการก็เสียหายหมดใช่หรือไม่ ซึ่งแบงค์การันตี ก็เกี่ยวกับการทำสัญญาของหน่วยงานราชการหลายสัญญา หากบริษัททิ้งงานไปแล้วไม่จ่ายแบงค์การันตี ซึ่งไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย แม้หน่วยราชการจะทำผิดสัญญาแต่แบงค์ก็ต้องจ่ายก่อน แล้วเรื่องไม่ทำตามสัญญาก็ไปฟ้องร้องคดีกันมันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนประเด็นที่ว่า กสทช.จะฟ้องแบงค์ ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคิดนั้น" เลขาธิการ กสทช. กล่าว
นายฐากร ระบุด้วยว่า หากบริษัท ต้องการยุติประกอบกิจการ จะต้องนำส่งค่าประมูลงวดที่เหลืออีกกว่า 1,600 ล้านบาท รวมถึงค่าธรรมเนียมประกอบกิจการรายปี ประมาณ 2 ล้านบาทเศษ และปรับเฉลี่ยวันละกว่า 60,000 บาท ให้ กสทช.เสร็จสิ้นก่อน และต้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) รับรองเป็นมติ จึงจะยุติประกอบกิจการได้