วันนี้ (24 ต.ค.2562) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงการดำเนินการของศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ระบุว่า หลังจากรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนให้กับกระทรวงยุติธรรม โดยสรุปว่า รับเรื่องมาทั้งหมด 152 เรื่อง พร้อมนำทีมแถลงความคืบหน้า 3 คดีดัง
สำหรับกรณีรถหรูมาเซราติของหนิงปณิตา ธรรมวัฒนะ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถยี่ห้อมาเซราติ รุ่นควอตโตรปอร์เต้ V8 2011 มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังตรงกับรถยนต์มาเซราติในบัญชีตรวจสอบของดีเอสไอย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งเหลืออีก 686 คัน ที่ยังต้องรอราคาจากทางอิตาลี
ที่ผ่านมารถที่เข้ามาจดทะเบียนได้หมด เพราะเข้ามาทั้งคันแล้วสำแดงราคาต่ำ แต่ที่ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้นำเข้า เพราะได้ราคาจากเมืองนอกมาตรวจสอบ พบว่า ราคาสูงกว่าที่สำแดงไว้เยอะ ส่วนกรณีนี้ยังตอบรายละเอียดไม่ได้
ขณะนี้ได้ประสานไปยังทางการอิตาลีตามความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศ เพื่อขอราคารถจริง หากตรวจสอบพบว่าใบสำแดงราคาขายมีความแตกต่างกับที่เจ้าของรถที่นำมาแสดงต่อศุลกากรก็จะต้องเรียกมาดำเนินคดีต่อไป
นิติฯ ยันผลตรวจลัลลาเบลตรงกับ รพ.จุฬาฯ
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่าถึงความคืบหน้า คดี น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือ ลัลลาเบล ที่พ่อแม่ได้มายื่นคำร้องต่อศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข เพื่อให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของลัลลาเบล โดย สน.บุคคโล ก็ได้มีหนังสือถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อให้ดำเนินการ
โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้หารือกับพ่อแม่ในประเด็นที่ต้องสงสัย 4 ประเด็นหลัก คือ 1.การตรวจสอบสารพิษในร่างกาย 2.ตรวจสารเสพติดในร่างกาย 3. ร่องรอยบาดแผลต่างๆ 4.ต้องการให้ตรวจพิสูจน์โดยใช้ซีทีสแกนทั้งร่าง โดยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ดำเนินการจนผลเสร็จสิ้นแล้ว
ทั้งนี้ การตรวจสอบมีผลสอดคล้องกันกับทางแพทย์นิติเวช ของรพ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้นำส่งผลการตรวจพิสูจน์ดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
คดีบิลลี่คืบหน้ากว่า 90% แล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงกรณีการโยกย้ายตำแหน่งจากรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ไปนั่งผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พร้อมยืนยันว่า สมัครใจที่จะไปนั่งตำแหน่งใหม่ แต่อาจทำให้หลายคนแปลกใจ เพราะคำสั่งมาในตอนทำคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่
ขอให้มั่นใจในการทำคดี เพราะตอนนี้คดีคืบหน้าไปกว่า 90% แล้ว ถึงจะไปดำรงตำแหน่งใหม่ แต่ก็สามารถใช้อำนาจทางกฎหมายไปเป็นที่ปรึกษาทางคดีได้ การทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษทำงานเป็นทีม ทุกคนสามารถดำเนินการต่อได้
โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบพยานในคดีบิลลี่ ไปแล้วกว่า 100 ปาก ช่วงที่เพิ่มความเข้มข้นหลังพบกะโหลกศีรษะ ก็ได้สอบพยานเพิ่มอีกกว่า 30ปาก ตอนนี้ก็สอบจะครบแล้ว ขณะนี้เหลือทางนิติวิทยาศาสตร์จะสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลการตรวจคิดว่าต้นเดือนหน้าจะมีความชัดเจนของรูปคดีว่าจะมีการดำเนินงานอย่างไรต่อไป ยืนยันว่า คดีเดินได้ และจะตั้ง พ.ต.ท.กรวัชร์ เป็นที่ปรึกษาคดีจนกว่าจำดำเนินการสอบสวนแล้วเสร็จ