วันนี้ ( 2 ธ.ค. 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกรอบครบกำหนดวันที่พรรคอนาคตใหม่ต้องส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จำนวน 191 ล้านบาทวันนี้ ( 2 ธ.ค.2562) นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกของพรรคระบุว่า พรรคจำเป็นต้องขอขยายเวลาในการส่งเอกสารไป 120 วันนับจากวันนี้ เพราะกำลังอยู่ในช่วงการปิดบัญชีปลายปี
ซึ่งชี้แจงว่าเอกสารที่ กกต.ร้องขอ เป็นสำเนาบัญชีรายการและเอกสารประกอบการลงบัญชีของพรรคตามมาตรา 59 ของกฎหมายพรรคการเมืองระหว่างวันที่ 1 มกราคม -30 กันยายน 2562 และเพื่อความถูกต้องพรรคจะรอเอกสารที่ผ่านการตรวจจากผู้ตรวจบัญชีส่งไปให้ กกต. และด้วยเหตุผลว่าเอกสารที่ กกต.ขอมาเป็นเอกสารบัญชีรายวันแสดงรายได้ หรือรายรับและแสดงค่าใช้จ่ายหรือรายจ่าย บัญชีแสดงรับการบริจาค บัญชีแยกประเภท บัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ที่พรรคมีจำนวนมากกว่า 100 แฟ้ม ที่ต้องทำสำเนาเซ็นรับรองให้ กกต.
แต่ก่อนหน้านี้พรรคได้ส่งเอกสารไปยัง กกต.แล้วบางส่วน และ กกต.มีอยู่ เช่น เอกสารค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง 19 แฟ้ม ,รายได้จากการบริจาคที่พรรคส่งให้ กกต.ทุกเดือน ,รายได้จากการระดมทุน โดยอ้างอิงว่าแม้ในมุมคนทำงานดูเหมือนง่ายแต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่นั้นมี 6 สาขา 70 ศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด
แต่ละเดือนมีเอกสารตรวจเดือนละ 10 แฟ้ม ด้วยระยะเวลาที่กำหนด พรรคอนาคตใหม่ไม่สามารถทำให้ได้ ไม่ใช่ไม่อยากทำให้ และแจ้งเหตุผลต่อ กกต.ไปแล้ว โดยขอให้ กกต.พิจารณาทบทวนเรื่องกรอบเวลาให้พรรคอนาคตใหม่ส่งเอกสารอีกครั้ง
ก่อนจะย้ำด้วยว่าตั้งแต่ กกต.แจ้งพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อหัวหน้าพรรค ว่าให้พรรคกู้เงินผิดหรือไม่นั้น พรรคได้ให้ความร่วมมือกับ กกต.มาโดยตลอด ตั้งแต่เชิญหัวหน้าพรรค เหรัญญิกพรรคไปชี้แจง
ส่วนนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ตั้งข้อสังเกตว่า การเรียกเอกสารจาก กกต.นี้เป็นการกลั่นแกล้ง บีบคั้นพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ พร้อมกันนี้รองโฆษกพรรคยืนยันไม่ต้องระมัดระวังอะไรเพิ่มเติม กรณีการส่งสัญญาณเตือนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเรื่องการเคลื่อนไหวของพรรค ย้ำว่าการรณรงค์แคมเปญต่าง ๆ นั้น เป็นไปตามที่พรรคได้หาเสียงไว้ ซึ่งเป็นพันธสัญญาให้ไว้กับประชน และมั่นใจว่าไม่ผิดกฎหมาย ยังระบุด้วยว่า พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่พรรคเสนอร่างกฎหมายต่อสภาผู้แทนราษฎร ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน แม้จะมีสำนักโพลบางสำนักอ้างอิงว่าร้อยละ 60 มีการสนับสนุนการเกณฑ์ทหาร