วันนี้ (19 ธ.ค.2562) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีเสนอชื่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางและวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่าไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจากพรรคเสรีรวมไทยมี ส.ส.จำนวนน้อย แล้วต้องทำงานทั้งในและนอกสภา จึงจำเป็นต้องเอาคนนอกที่มีความรู้ความสามารถมาทำหน้าที่กรรมาธิการ ซึ่งนายสมชัย เป็นบุคคลที่มีความรู้จริงและมีแนวทางตรงกัน แม้จะเคยเป็นอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองอื่นก็ตาม ส่วนรายละเอียดจะมีการเสนอผลักดันแก้ไขมาตราใดบ้าง จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนความคาดหวังต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการชุดนี้ เนื่องจากเสียงฝ่ายค้านมีจำนวนน้อยกว่านั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มีปัญหาทุกมาตรา แต่ก็มีหลายมาตราที่ต้องแก้ไข โดยมองว่าการตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้เป็นเรื่องดีที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกันให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการ แต่คิดว่าฝ่ายผู้มีอำนาจก็คงไม่ยอมให้แก้ไขในมาตราที่กระทบกับอำนาจ เช่นอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าญัตติที่แล้ว ที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยอมให้ฝ่ายค้านตั้งคณะกรรมาธิการ ศึกษาผลกระทบจากการกระทำของ คสช. และมาตรา 44 ทั้งที่เป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่ยอม พร้อมระบุว่าไว้เลือกตั้งครั้งหน้าก็ค่อยเลือกกันใหม่
ส่วนกระแสข่าวว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และกรรมาธิการในสัดส่วนรัฐบาล จะได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานคณะกรรมาธิการ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายพีระพันธุ์ ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นฝ่ายไหน จึงไม่น่าจะมีอะไร และคงทำตามแนวทางของผู้มีอำนาจ ส่วนกรณีศาสตราจารย์อุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เข้านั่งเป็นกรรมาธิการด้วยนั้น ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอมา