เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าจับกุมนายสมเย็น (สงวนนามสกุล) หนึ่งในผู้ต้องหาคดีก่อเหตุทำร้ายและปล้นเอาสร้อยทองคำหนัก 2 บาท จาก สาวใหญ่วัย 67 ปี เมื่อปี 2557 หลังจากหลบหนีไปไปบวชที่วัดแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ขณะเข้าจับกุมนายสมเย็นได้อยู่ในสมณเพศ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สอบถามนายสมเย็น ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบ และให้สึกจากความเป็นพระ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จับผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 คน เหลือแค่คนเดียว
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2557 นายสมเย็นได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน ก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วยการรุมเตะต่อยและปล้นเอาสร้อยทองคำหนัก 2 บาท ไปจาก น.ส.ศิรพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ขณะกำลังรอจะใส่บาตรตอนเช้า อยู่บริเวณหน้าบ้านในพื้นที่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป ต่อมาตำรวจไล่ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 2 คน เหลือเพียงนายสมเย็นที่หลบหนีมาได้ตลอด
รับสารภาพเคยก่อเหตุมาแล้วเกิน 50 ครั้ง
จนตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้สืบทราบว่านายสมเย็นได้หลบหนีไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่วัด เมื่อพบนายสมเย็น จึงได้เข้าจับกุมตามกฎหมาย ชั้นจับกุม ผู้ต้องหาได้ให้การว่า ก่อนหน้านี้ ได้ติดยาเสพติดจนขาดสติ ได้ร่วมกับเพื่อนหาเหยื่อที่เป็นผู้หญิงที่มีทรัพย์สินมีค่า เช่น สร้อยคอทองคำ จากนั้นจะรุมทำร้ายร่างกายเหยื่อก่อนจะนำทรัพย์สินหลบหนีไป โดยนายสมเย็นยอมรับว่าตนเองและพวกก่อเหตุมาแล้วทั่วประเทศเกิน 50 ครั้ง เคยเข้าออกเรือนจำเป็นปกติ อย่างน้อย 5 ครั้ง ครั้งนี้หลังก่อเหตุก็จะหลบหนีเปลี่ยนที่อยู่ไปเรื่อยๆ จนหนีมาบวชที่ จ.สุโขทัย โดยหวังอาศัยผ้าเหลืองหวังจะลบความผิดที่ตนได้กระทำไป สุดท้ายหนีไม่พ้น ถูกตำรวจกองปราบจับกุม