วันนี้ (16 ก.ย.2563) สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี ต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 370 ล้านบาท ให้กับครอบครัวของบรีออนนา เทย์เลอร์ หญิงผิวสีที่ถูกตำรวจฆาตกรรมภายในห้องพัก
บรีออนนา เทย์เลอร์ อายุ 26 ปี ถูกยิงอย่างน้อย 8 ครั้ง และเสียชีวิตในวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการบุกตรวจค้นในปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดหลังเที่ยงคืนด้วยหมายค้นแบบไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า โดยในวันเกิดเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ยิงกระสุนมากกว่า 25 นัด ซึ่งครอบครัวของบรีออนนา เทย์เลอร์ ได้ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ด้วยข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
ชื่อของ "บรีออนนา เทย์เลอร์" จึงกลายเป็นชนวนในการประท้วงครั้งใหญ่เพื่อต่อต้านการเหยียดผิวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ องค์กรความยุติธรรมทางสังคมได้จัดชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เทย์เลอร์ และออกแถลงการณ์ว่า
ไม่มีเงินจำนวนใด ที่จะนำบรีออนนา เทย์เลอร์กลับคืนมาได้ ความยุติธรรมที่แท้จริงไม่ได้จ่ายแทนได้ด้วยเงินสด เราต้องการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหา เราต้องการความยุติธรรม
ทนายความของครอบครัวเทย์เลอร์ เปิดเผยว่า สิ่งที่ครอบครัวเทย์เลอร์กำลังต่อสู้อยู่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปตำรวจ และความสำเร็จในวันนี้เป็นเหมือนการวิ่งมาราธอนระยะแรก โดยครอบครัวพร้อมจะต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายและไปถึงเส้นชัย
ขณะที่แม่ของบรีออนนา เทย์เลอร์ ได้เรียกร้องให้มีการตั้งข้อหาทางอาญาต่อเจ้าหน้าที่และขอให้ทุกคนกล่าวถึงชื่อของลูกสาวเธอเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปตำรวจ หลังเดือน มิ.ย. กรมตำรวจได้ไล่ออกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว 1 คน และสั่งย้ายเจ้าหน้าที่อีก 2 คน
ข้อตกลงในการจ่ายค่าเสียหายให้ครอบครัวเทเลอร์ครั้งนี้ นับเป็นการชดเชยคดีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองหลุยส์วิลล์ นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อการปฏิรูปตำรวจหลายชุดในเมือง ทั้งข้อกำหนดว่าหมายค้นทั้งหมดต้องได้รับการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงก่อน
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของบรีออนนา เทย์เลอร์ ได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อเกิดกรณีการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดเข่าเข้าที่คอของเขาเป็นเวลาหลายนาทีระหว่างการจับกุมในรัฐมินนิโซตา เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการเสียชีวิตของฟลอยด์ส่งผลให้เกิดการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติไปทั่วโลก และนำมาซึ่งการมุ่งเน้นไปที่พฤติกรรมรุนแรงของตำรวจ