วันนี้ (22 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดธรรมมงคล ออกประกาศ แข้งข่าวการมรณภาพ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล / ประธานกรรมการคณะสงฆ์ธรรมยุตในประเทศแคนาดา
ซึ่งเข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ตังแต่วันที่ 16 ต.ค.2563 คณะแพทย์ผู้ดูแลรักษาได้ให้การรักษาอย่างใกล้ชิดเต็มความสามารถ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัด อาการเริ่มดีขึ้นสลับกับคงที่ตามลำดับมา
ล่วงถึงวันที่ 19 ธ.ค.2563 เจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) มีอาการทรุดลงและได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบด้วยโรคชรา ในวันที่ 22 ธ.ค.2563 เวลา 07.32 น. สิริอายุ 100 ปี 11 เดือน 15 วัน พรรษา 80
สำหรับ หลวงพ่อวิริยังค์ เดิมชื่อ วิริยังค์ บุญฑีย์กุล เกิดวันที่ 7 ม.ค.2463 ที่บ้านพักบริเวณสถานีรถไฟปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี
บรรพชาวันที่ 22 พ.ค.2478 ณ วัดสุทธจินดา ต.โพธิ์กลาง อ. เมือง จ.นครราชสีมา อุปสมบทวันที่ 20 พ.ค.2484 ณ วัดทรายงาม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยมีพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปัญโญ) วัดปทุมวนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ วัดสว่างอารมณ์ ต.ลาดบัวขาว อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอุดมธรรมคุณ (หลวงปู่มหาทองสุก สุจิตฺโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นต่างๆ เรื่อยมา กระทั่งเป็นเจ้าคณะรองที่ พระพรหมมงคลญาณ ต่อมาวันที่ 2 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนา พระพรหมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินธโร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ จารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระญาณวชิโรดม
ความในพระบรมราชการโองการ ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูรกิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า
พระพรหมมงคลญาณ เป็นพระเถระผู้เจริญในสมณคุณ ยินดีในเนกขัมมปฏิบัติ สมบูรณ์ด้วยศีลาจารวัตร รัตตัญญูมหาเถรกรณธรรม มั่นคงตลอดมา ได้ประกอบกรณียกิจเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา และราชอาณาจักรอย่างไพศาล ดังปรากฏในประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ เป็นที่พระราชาคณะเจ้าคณะรอง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2562 แล้ว นั้น
ครั้นต่อมา พระพรหมมงคลญาณ ได้เจริญยิ่งด้วยอุตสาหวิริยาธิคุณมิได้ท้อถอย ได้ปกครอง ดูแลและให้ความอนุเคราะห์พระภิกษุสามเณรในคณะ และในอารามอย่างสม่ำเสมอ สนับสนุนและให้ความสำคัญด้านการศึกษาของพระภิกษุสามเณร ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนของชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาสมาธิ การฝึกอบรมสมาธิภาวนาจิต เผยแพร่ไปทั่วประเทศ และในต่างประเทศ ก่อให้เกิดการน้อมนำธรรมเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนของพุทธศาสนิกชนในยุคปัจจุบัน
สรรพกรณียกิจที่ พระพรหมมงคลญาณ ได้บำเพ็ญปฏิบัติตลอดมานั้น ย่อมเกิดผลดี ทั้งแก่พระพุทธศาสนา ประเทศชาติ และประชาชนทั่วไป นับได้ว่าเป็นผู้มีความอุตสาหวิริยะ ประกอบด้วยเมตตาธิคุณและกรุณาธิคุณเกื้อกูลต่อพหูชน อุทิศตนแก่พระพุทธศาสนาและสังคมอย่างแท้จริง สมควรที่จะได้ยกย่องให้ดำรงสมณฐานันดรที่สมเด็จพระราชาคณะสืบไป
จึ่งทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา พระพรหมมงคลญาณ ขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามที่จารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระญาณวชิโรดม พุทธาคมวิศิษฐ์ จิตตานุภาพ พัฒนดิลก สาธกธรรมวิจิตร วิเทศศาสนกิจไพศาล วิปัสสนาญาณธุราทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดธรรมมงคลเถาบุญนนทวิหาร กรุงเทพมหานคร