ด้วยความที่อยากได้มากๆ เขาก็ต้องหาทางลัด เลยทำให้บางคนตัดสินใจผิดพลาด เข้าสู่กระบวนการทุจริต
เปมีปินัทธ์ วนิชบูริพันธ์ เลขานุการประธานมูลนิธิในโครงการพระราชดำริสวนป่าสมุนไพร อ้างถึง การสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยในรอบปีที่ผ่านมา เมื่อเราสอบถาม จากหนึ่งในผู้เข้าสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ยอมรับว่า พบการร้องเรียนทุจริต และซื้อขายข้อสอบ ก่อนถึงวันสอบจริง
พฤติกรรมของสถาบันกวดวิชาเอกชนบางแห่ง นำข้อสอบจริงที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ในองค์กรแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานออกข้อสอบนำออกมาติวให้กับผู้ที่เข้ากวดวิชาก่อนสอบได้
The Exit ได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าพฤติกรรมของสำนักติว สอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยบางแห่งแบ่งการติวสอบ ออกเป็น 3 ระดับ ระดับสูงสุดราคาการติวสูงกกว่า 10,000 บาท ใช้เวลาติวเพียง 7-30 วัน มีการันตีว่าผู้เข้าสอบ สามารถทำข้อสอบได้ เนื่องจากการติวสอบในระดับที่ 1 จะมีข้อสอบที่รั่วจำนวนมากระดับที่ 2 มีราคาต่ำกว่าระดับแรก ใช้เวลาติวมากกว่า แต่มีจำนวนข้อสอบรั่วไม่มาก ระดับที่ 3 ราคาในการติวถูกที่สุด ใช้เวลามากที่สุด แต่ไม่มีข้อสอบรั่ว นั่นหมายถึง ผู้เข้าสอบจะได้รับข้อมูลกว้าง ๆ เท่านั้น
ข้อสอบที่ถูกระบุว่า คือข้อสอบรั่วคือข้อสอบภาคปฏิบัติในสาขาเภสัชกรไทย รอบการสอบ เดือนธันวาคม ปี 2563 เธออ้างว่า มีเจ้าหน้าที่ในสภาฯ วิชาชีพ นำออกมาให้สำนักกวดวิชา โดยมีค่าจ้าง เป็นผลประโยชน์ตอบแทน มากกว่านั้นพบว่าบางสำนักติว บางแห่ง มีเจ้าของกิจการเกี่ยวข้องกับ เจ้าหน้าที่สภาการวิชาชีพเป็นที่รู้กันในกลุ่มผู้เข้าสอบ ว่า สำนักติวไหนมีข้อสอบรั่ว หรือ ได้รับข้อสอบรั่วมาแล้ว เพื่อให้ลูกค้าและสาขาวิชาที่ข้อสอบถูกนำออกมาขายมากที่สุด คือ สาขาเภสัชกรไทย เนื่องจากเป็นสาขาที่มีผู้เข้าสอบจำนวนมาก
คนข้างในก็มีสำนักติวของตัวเองอยู่แล้ว ฉนั้นเขาก็รู้ว่าข้อสอบจะออกอะไร เขาก็เลยรู้ว่าจะเอาอะไรมาติวในสำนักเขาอยู่แล้ว บางทีก็ไม่จำเป็นต้องขายให้สำนักอื่น
ทำไมผู้เข้าสอบจึงต้องมีใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย จนต้องยอมจ่ายค่าติวข้อสอบหลักหมื่นเพื่อแลกกับการสอบให้ได้ใบประกอบวิชาชีพใบประกอบวิชาชีพนี้นำไปใช้อะไรได้บ้างเริ่มต้นจากผู้ที่จะเป็นแพทย์แผนไทย ต้องเรียนตามหลักสูตรที่ได้รับการรับรองแบ่งออกเป็น 4 สาขาคือ สาขานวดแผนไทย สาขาเภสัชกรไทย สาขาเวชกรรมไทย และสาขาผดุงครรภ์ไทย
ลักษณะการเรียน แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบแบบหลักสูตร 1 ปี คือกลุ่มที่เรียนเพื่อจะเป็นแพทย์แผนไทย แต่ไม่ได้ลงลึกในด้านของวิชาการ ส่วนใหญ่จะเป็นสถาบันเอกชนที่เปิดสอนแบบที่ 2 คือ หลักสูตร 4 ปี ที่เปิดสอนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งจะลงลึกมากกว่าแต่หากผู้ที่ผ่านการเรียนจาก 2 หลักสูตร ต้องการเปิดคลินิค ร้านขายสมุนไพร นำเข้าส่งออก หรือเปิดโรงงานผลิตยาสมุนไพรนั้น จะต้องได้รับใบประกอบวิชาชีพก่อนซึ่งต้องผ่านทั้งการสอบภาพทฤษฎี และภาคปฏิบัติก่อนหน้านี้
กลุ่มผู้ร้องเรียนนำหลักฐานที่ได้ เข้าร้องเรียนกับ ป .ป. ช.และดีเอสไอ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกด้านสภาการแพทย์แผนไทย มีคำแถลงการณ์ชี้แจ้งกรณีนี้ ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่ได้เพิกเฉยกับปัญหาทุจริตการสอบยังคงต้องติดต่อว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จะมีผลอย่างไรแต่อีกด้าน
ขณะเดียวกัน ได้ประกาศผลสอบสอบความรู้ในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยฯ ทั้ง 4 ด้าน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากการตรวจสอบข้อเท็จพบว่ามีข้อสอบรั่วจริง จะเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพที่อนุญาตไปหรือไม่