วันนี้ (9 มี.ค.2565) บริษัทแมคโดนัลด์ ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จะปิดสาขาในรัสเซียทั้งหมด 847 สาขา แต่ยังคงจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน 62,000 คน เพื่อตอบโต้รัสเซียที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับชาวยูเครนโดยไม่จำเป็น และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งเมื่อไหร่
ส่วนร้านสาขาในยูเครน 108 แห่ง ก็ระงับการให้บริการเช่นเดียวกัน แต่ยังคงจ่ายเงินเดือนให้พนักงานตามปกติ และยังบริจาคเงินให้อีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนช่วยเหลือพนักงาน
แมคโดนัลด์เปิดร้านสาขาแรกในกรุงมอสโกของรัสเซีย เมื่อปี 1990 ซึ่งในขณะนั้นยังอยู่ในยุคของอดีตสหภาพโซเวียต และมีรายได้จากการทำธุรกิจในรัสเซียและยูเครนรวมกันคิดเป็นร้อยละ 9 ของรายได้ทั้งหมด มียอดขายคิดเป็นร้อยละ 2 ของทั้งโลก
ส่วนโคคา-โคลา ได้ประกาศระงับการทำธุรกิจในรัสเซียเช่นเดียวกัน ซึ่งรายได้จากรัสเซียคิดเป็นร้อยละ 2 ของทั้งโลก
ในขณะที่เป๊ปซี่ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ ประกาศระงับการผลิตและจำหน่ายเป๊ปซี่และน้ำอัดลม รวมถึงระงับการลงทุนและการโฆษณาทั้งหมด แต่ยังคงจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นๆ ตามปกติ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม นมผงและอาหารทารก ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม
การประกาศระงับทำธุรกิจในรัสเซียของบริษัทรายใหญ่ระดับโลกเกิดขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันจากโลกออนไลน์ที่เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันคว่ำบาตรสินค้าของบริษัทที่ไม่ยอมระงับการทำธุรกิจในรัสเซีย ทำให้บริษัทหลายแห่งทนแรงกดดันไม่ไหวจนต้องออกมาเคลื่อนไหวตามกระแสสังคม
ที่มา : Reuters