การเปิดผู้บริหารใหม่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ นำโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่ามกลางสมาชิกพรรค และผู้ที่เดินทางไปร่วมให้กำลังใจที่หลากหลาย มีนัยสำคัญทางการเมืองอย่างหนึ่งที่ใคร ๆ ปฏิเสธไม่ได้
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องยืมจมูกพรรคพลังประชารัฐ หายใจอีกแล้ว เพราะแทบจะกลายเป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยอนุโลม
เพราะนายพีระพันธุ์ คือ คนที่ พล.อ.ประยุทธ์เรียกใช้บริการหลายเรื่องสำคัญ ทั้งบอร์ดการบินไทย ชุดเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ เป็นอดีตประธานกรรมการศึกษากฎเกณฑ์และแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ ปี 60 ชุดแรก
เป็นที่ปรึกษานายกฯ เป็นกรรมการ ศบค.รับมือการแพร่ระบาดโควิด 19 และเป็นประธานกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนผู้ร้องเรียนและผู้ร้องทุกข์
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ยังคงมีคำถามความเป็นเอกภาพ และ ส.ส.ปัจจุบันจะย้ายพรรคอีกหรือไม่ หลังจากมีเกิดขึ้นหลายระลอก
และครั้งนี้มีสัญญาณจาก ส.ส.บางส่วน ที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนกลับไปสนับสนุนวิธีคิด ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หารด้วย 500 แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้กลายเป็นพรรคที่ถูกพูดถึงกันมาก
ทั้งมีข่าวจะมี ส.ส.และกลุ่มการเมืองอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมย้ายเข้าสมทบ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ด้วยเชื่อว่า พล.อ.ยังเป็นจุดขายได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นอกจากนี้ รวมไทยสร้างชาติ ยังถูกตั้งข้อสังเกตจากคอการเมืองพันธุ์แท้ว่า เป็นพรรคประชาธิปัตย์สาขา 2 เนื่องจากเมื่อดูจากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และคนที่ไปร่วมในงานก็ดี ล้วนแวดล้อมไปด้วยศิษย์เก่าพรรคประชาธิปัตย์มากหน้าหลายตา และหลายคนเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส.ร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งจัดชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ไม่เพียงนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคคนใหม่ และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคเท่านั้น ยังมีชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย และนายวีระชัย วีระเมธีกุล 2 อดีตรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายสามารถ มะลูลีม อดีตส.ส. หลายสมัยรุ่นเก๋า กรุงเทพฯ แม้แต่ชื่นชอบ คงอุดม ทายาทนายชัชวาล คงอุดม ก็ศิษย์เก่าปชป. เป็นอดีตส.ส.กรุงเทพฯ
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ของนายสุเทพ เข้าสมทบอีกหลายคน รวมทั้งนายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง อดีตเลขาธิการพรรค รปช. ขณะที่นายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี ส.ส.ชุมพร พรรคปชป. และแกนนำกปปส.อย่างนายถาวร เสนเนียม ก็เดินทางไปร่วมให้กำลังใจในงานคับคั่ง
ที่น่าสนใจเช่นกัน คือการมีทายาทรุ่น 2 และ 3 จากกลุ่มการเมืองระดับตำนานของไทย คือกลุ่ม (ซอย) ราชครู เข้าร่วม ทั้งนายปองพล และปรพล อดิเรกสาร และปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เท่ากับเป็นจุดเริ่มที่สำคัญของตระกูลการเมืองใหญ่ ที่พร้อมจ่อคิวเข้าร่วมมีบทบาททางการเมืองหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
ไม่เพียงเท่านั้น พรรคนี้ยังถูกคาดหมายว่า จะเป็นอีกหนึ่งแนวร่วมที่มีพลังมากพอ สำหรับการเตรียมสกัด “แลนด์สไลด์” ของพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการพลิกเกมและการจัดทัพใหม่ชิงความได้เปรียบ ของขั้ว พล.อ.ประยุทธ์ เท่ากับภารกิจจะไม่ใช่แค่ส่ง พล.อ.ประยุทธ์ สู่การเป็นนายกฯ สมัยที่ 3 เท่านั้น แต่เป้าหมายใหญ่อาจถึงขั้นเป็นพรรคหลักในการค้ำรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์หลังการเลือกตั้งสมัยหน้า เหมือนกับที่พรรคพลังประชารัฐเคยเป็น
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นอีกหนึ่งพรรคที่จะมีชื่อและความเคลื่อนไหวปรากฏบนหน้าสื่อนับจากนี้ไป ในฐานะพรรคการเมืองใหญ่ขั้วสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์