แม้ว่า ท้ายที่สุด ป.ป.ช.มีมติว่า "บิ๊กป้อม" ยืมนาฬิกาเพื่อน นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนสนิมร่วมรุ่นโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ไม่ผิด และเป็นการ “ยืมใช้คงรูป” จึงไม่ต้องแสดงในรายการบัญชีทรัพย์สินหนี้สินต่อ ป.ป.ช. รวมทั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ป.ป.ช. ก็ตีตกว่า ไม่เข้าข่ายรับทรัพย์สินมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ที่ ป.ป.ช.กำหนดไว้ กรณีรับของขวัญของชำร่วย
ฤทธิ์เดชของนาฬิกาเพื่อน เมื่อรวมกับคำตอบที่ผู้คนทั่วไปยังค้างคาใจ นำไปสู่การเป็นประเด็นหนึ่ง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหลายครั้ง โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร โดยเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
และล่าสุด นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.พรรคก้าวไกล และเป็นโฆษก กมธ.ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร ได้อ้างข้อมูลใหม่ว่า “เสี่ยคราม” ที่ “บิ๊กป้อม” กล่าวอ้างถึง ว่าเป็นเจ้าของนาฬิกา กลับพบว่า ไม่มีนาฬิกาหรูเลย
ขณะที่นาฬิกาเพื่อน ในส่วนการตรวจสอบของ ป.ป.ช.จะได้ข้อยุติแล้ว แต่เรื่องนี้ยังมีการร้องไปยังกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานกรรมาธิการ และยังเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
ล่าสุดได้กลายเป็นประเด็นร้อนอีกคำรบ เมื่อ กมธ.ชุดดังกล่าว ได้เชิญ “หม่อมอุ๋ย” ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อนเซนต์คาเบรียลคอนเน็คชั่นของบิ๊กป้อมและเสี่ยคราม
ในฐานะผู้จัดการมรดกของ นายปัฐวาท ไปให้ข้อมูลกับ กมธ. เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้คำตอบสำคัญ คือ นาฬิกาหรู 20 เรือน ไม่มีอยู่ในบัญชีมรดกของนายปัฐวาท แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นอย่างไร “หม่อมอุ๋ย” บอกไม่ทราบ
หากข้อมูลนี้เป็นจริง อย่างที่นายธีรัจชัยระบุว่า เสี่ยครามไม่มีนาฬิกาหรูเลย ทำให้เกิดคำถามตามมาทันที คือบิ๊กป้อม ยืมนาฬิกาหรูใครมาใส่ เป็นของใคร หรือเป็นของ “บิ๊กป้อม” เอง
ซึ่งหากเป็นกรณีหลังสุด “บิ๊กป้อม” จะเจอกับเรื่องใหญ่ตามมาทันที คือความผิดที่ไม่ยอมแสดงบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน หรือแสดงบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช. ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.ปี 2561
ซึ่งตาม พ.ร.ป. หาก ป.ป.ช. มีมติว่า มีการจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน หรือจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ป.ป.ช.จะเสนอเรื่องเพื่อส่งฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือศาลอาญา แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบหรือศาลปราบโกง เพื่อพิจารณาและพิพากษาคดีแล้วแต่กรณี
หากศาลพิจารณาเห็นตามคำร้อง ผู้ถูกร้องจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง ห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือมีตำแหน่งในพรรคการเมืองใด เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งมี ส.ส.หลายคนโดนมาแล้ว
กมธ.ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนฯ จึงเรียกร้องให้ ป.ป.ช.รื้อฟื้นคดีนาฬิกาเพื่อนขึ้นมาพิจารณาใหม่ เมื่อมีข้อมูลใหม่ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดย้ำไว้ว่า คดียืมนาฬิกาเพื่อนของบิ๊กป้อมยังไม่จบ
เพราะจะมีผลต่อ “บิ๊กป้อม” ทั้งในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอาจเป็นหนึ่งในแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งต้องลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน
แม้จะเป็นเพียงภารกิจของกมธ. ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านนิติบัญญัติ ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร แต่ต้องไม่ลืมว่า ทั้งกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ที่ จ.ราชบุรี และนายศิระ เจนจาคะ กรณีขาดคุณสมบัติสมัคร ส.ส. ซึ่งในเวลาต่อมาต่างถูกวินิจฉัยให้พ้นจากเป็น ส.ส.ทั้งคู่ ก็เป็นฝีมือของกรรมาธิการ ป.ป.ช.ชุดนี้
วิเคราะห์โดย : ประจักษ์ มะวงศ์สา