ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สนธิรัตน์" รับคุยหลายพรรคจับมือการเมือง - เปิดตัว "บิ๊กเนม" หลังเอเปค

การเมือง
18 พ.ย. 65
09:36
3,088
Logo Thai PBS
"สนธิรัตน์" รับคุยหลายพรรคจับมือการเมือง - เปิดตัว "บิ๊กเนม" หลังเอเปค
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขาฯ พรรคสร้างอนาคตไทย เผยเตรียมเปิดตัว "บิ๊กเนม" หลังเอเปค ช่วยสร้างแรงดึงดูดทางการเมือง รับคุยหลายพรรค พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรหากทำงานร่วมกันได้

วันนี้ (18 พ.ย.2565) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผย ถึงกรณีการเปิดตัว "บิ๊กเนม" ร่วมงานทางการเมืองผ่านรายการ "มุมการเมือง" ทางไทยพีบีเอส โดยระบุว่า

ขณะที่พรรคมีความในการเลือกตั้งของพรรคในพอสมควร โดย ส.ส.เขตมีความพร้อม 70 % เนื่องจากในการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ ส.ส.ระบบเขต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากในบางพื้นที่ผู้สมัครอาจไม่แข็ง ก็ต้องมียุทธศาสตร์การเตรียมหาคะแนนเสียงใน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ขณะที่ มีผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมงานมาเป็นระยะ ขณะที่ "บิ๊กเนม" จะเปิดตัวหลังเอเปค คาดว่าจะสร้างกระแสของพรรคได้ดีขึ้น

บิ๊กเนมจะเป็นบุคคลในแวดวงการเมือง ที่จะกระทบต่อกระแสพรรคมีผลต่อปริมาณ ส.ส.ที่จะมากขึ้น โดยจะเปิดตัวหลังประชุมเอเปค

ขณะที่ การเปิดตัวร่วมงานกับ คุณหญิงสุดารัตน์ นั้น ในเชิงการเมืองสามารถจับมือกันได้ในหลายมิติ ขณะที่พรรคการเมืองที่มีอุดมการ์คล้ายกันก็มีการพูดคุยกันแน่นอน ซึ่งอาจไม่ใช่เพียงพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ที่มีการคุยกันอยู่ แต่ก็มีการคุยกันหลายพรรค เนื่องจากการเมืองรอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอนค่อนข้างสูง ซึ่งยุทธศาสตร์ในการแลกเปลี่ยนและการพร้อมเป็นพันธมิตรต้อง
ดูจังหวะการเมืองและต้องดูว่าทั้ง 2 หรือ 3 ฝ่ายได้ประโยชน์

เรื่องนี้คิดว่าอะไรก็เกิดขึ้น ถ้าหากการเป็นพันธมิตรทางการเมืองร่วมกันเป็นประโยชน์ที่ทุกฝ่ายสามารถทำงานทางการเมืองตามที่ทุกฝ่ายตั้งใจได้ด้วยดี ก็มีโอกาสเกิดขึ้นเสมอ

นายสนธิรัตน์  ยังกล่าวว่า เงื่อนไขในการร่วมงานทางการเมือง ต้องมีทิศทาง และแนวทางการทำงานที่ไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ในการทำงานทางการเมือง

รวมถึงต้องมองถึงระยะยาวในการทำงานการเมืองร่วมกันด้วย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญเพราะพรรคตั้งใจมาทำงานเพื่อบริหารจัดการปัญหาของประเทศ โดยต้องทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศได้

ขณะที่หลังการประชุมเอเปค ถือเป็นหมุดหมายทางการเมืองของไทย เห็นว่า นายกฯใช้เป็นหมุดหมายทางการเมืองว่าอย่างไรก็ตามต้องขับเคลื่อนประเทศไทยให้ผ่านการเป็นเจ้าภาพเอเปคไปให้ได้

ดังนั้น หลังการประชุมเอเปคซึ่งหมุดหมายนี้ได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้วมาปลายสมัยของสภาฯชุดนี้ และศาลรัฐธรรมที่จะพิจารณากติกาการเลือกตั้ง

ดังนั้น สถานการณ์โดยรวมจึงทำให้หลังการเสร็จสิ้นการประชุมเอเปคจะมีสถานการณ์ทางการเมืองที่จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ชัดเจน และอะไรก็พร้อมที่จะเกิดขึ้นได้ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง