ในกลุ่มเขาบอกหมดแรงแล้ว แต่ไปเจอใกล้พวงชูชีพ เสื้อค่อนข้างรัดคอ แต่คนนี้เขาจะคว่ำหัวลงเพื่อไม่ให้รัดคอเกินไป
พอเห็นอากาศยานมาจึงพลิกชูชีพขึ้น เพราะเป็นสีส้ม ซึ่งอากาศยานบินผ่านมาหลายรอบ แต่จังหวะสุดท้ายที่พลิกสีส้มมา จึงเห็นและนำตัวกลับขึ้นฝั่ง
คำบอกเล่าจากคำของ พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาค 1 หลังจากเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เรือหลวงกระบุรี นำผู้สูญหาย 1 ใน 30 นาย คือ พ.จ.อ.นที ทิมดี
ที่สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลับเข้าฝั่งปลอดภัย และนำมาส่งที่ท่าเรือน้ำลึกประจวบฯ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางสะพาน
พล.ร.ท.พิชัย บอกว่า ทุกครั้งในการฝึกใช้แรงน้อยสุด และเซฟแรง เสื้อชูชีพจะช่วยพยุงตัว ซึ่งในหลักสูตรมีการฝึกว่ายน้ำข้ามเกาะ การเอาตัวรอดไม่ใช่ว่ายน้ำเก่งจะรอด แต่การที่ใช้การลอยตัวและใช้พลังงานน้อยที่สุดจะรอด
วันนี้ไม่เจอหนักใจ แต่ไม่ท้อถอย จะต้องหาให้เจอ
ผู้การเรือที่มีประสบการณ์จะเคารพในการตัดสินใจและทุกอย่างทำตามขั้นตอน หลักการวิธีการที่ทั่วโลกในการช่วยเหลือ กรณีที่มีการอ้างส่งข้อมูลไปถึงครอบครัวก่อนเรืออับปาง 1 ชั่วโมงนั้น ยืนยันว่า ทุกเหตุการณ์ ผบ.เรือ ต้นกลเรือ จะป้องกันความเสียหายจะดำเนินการตามขั้นตอนแต่เคสนี้น้ำเข้าเรือมากต้องหาสาเหตุ อีกทั้งเมื่อคลื่นแรงเรือจะมุดคลื่น ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้คลื่นลมมากกว่าปกติในฤดูกาล
ตั้งแต่น้ำเข้า มีการประเมินและสละเรือโดยเกาะที่กราบเรือ แต่ก็ยังเสียดายเรือและไม่อยากสูญเสีย เพราะทุกลำใช้อย่างคุ้มค่า และเรือหลวงสุโขทัยใช้งานนาน 40 ปี
เรือเหมือนกับชีวิต ถ้าคนเป็นทหารเรือจะรู้ว่าเรือเป็นเหมือนครอบครัว เป็นชีวิต
พล.ร.ท.พิชัย บอกว่า เรือมีเครื่องไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญ 4 เครื่อง เมื่อเสีย 1 เครื่องก็จะมีสำรอง แต่ครั้งนี้เสียทั้งหมดเพราะน้ำเข้า ต้องหาสาเหตุและหาทางกู้เรือ
เสื้อชูชีพจริง ๆ เรามีไม่ครบ แต่มีกล่องชูชีพที่ใช้ทดแทนกันทำให้ลอยตัวได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรือหลวงกระบุรี ลุยภารกิจค้นหา 31 ลูกเรือ วันที่ 2
ผบ.ทร.เยี่ยมกำลังพล รล.สุโขทัย ส่งบางส่วนกลับกองเรือยุทธการ
โฆษก ทร. ยืนยัน ไม่พบผู้เสียชีวิต เหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง