วันนี้ (21 ธ.ค.2565) สื่อหลายสำนักรายงานอ้างแหล่งข่าว ระบุว่า หากโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ได้เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา โดยเขาอาจจะได้กล่าวต่อที่ประชุมสภาคองเกรส และพบกับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
ขณะที่แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ส่งจดหมายถึงสมาชิกสภาคองเกรส ขอให้เข้าร่วมงานที่จะจัดขึ้นในวันพุธนี้ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ โดยระบุเพียงว่าเป็นวาระที่พิเศษมากๆ ซึ่งให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย แต่ไม่มีการลงรายละเอียด
ทั้งนี้ หากผู้นำยูเครนเดินทางเยือนสหรัฐฯ จริง จะถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่รัสเซียใช้กำลังบุกยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ประเด็นเรื่องการรักษาความปลอดภัยของผู้นำยูเครนถือเป็นเรื่องน่ากังวล นั่นหมายความว่ากำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงในเวลากระชั้นชิด ซึ่งวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นในยูเครน เซเลนสกีเดินทางไปเมืองบัคห์มุท ในภูมิภาคโดเนทสค์ ซึ่งเป็นแนวหน้าของสมรภูมิรบ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
คนสนิทปูตินระบุต้องการพบผู้นำยูเครน
ช่วงเวลาดังกล่าว เยฟเกนี พริโกซิน บุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นคนสนิทของวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้โพสต์คลิปวิดีโอระบุว่า เขารีบเดินทางมายังเมืองบัคห์มุท ทันทีที่ทราบข่าวว่าผู้นำยูเครนมาที่นี่ พร้อมระบุว่าต้องการพบเซเลนสกี
พริโกซิน เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลกองกำลังทหารรับจ้าง แวกเนอร์ กรุ๊ป ที่ชาติตะวันตกและองค์การสหประชาชาติ กล่าวหาว่า ทหารรับจ้างกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายต่อหลายครั้งในทวีปแอฟริกา รวมถึงในซีเรีย
WHO เตือนชาวยูเครน 10 ล้านคนมีปัญหาสุขภาพจิต
ขณะที่ผู้แทนขององค์การอนามัยโลกในยูเครน แสดงความกังวลว่าชาวยูเครนร่วม 10 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ ประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตที่เกิดจากสงครามที่ยืดเยื้อมานานถึง 10 เดือน รวมถึงภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง
นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว ชาวยูเครนจะป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินทางหายใจมากขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจัด ประกอบกับสภาวะที่ไม่มีเครื่องทำความร้อนที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงอุบัติเหตุทางถนนจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาไฟฟ้าดับที่ทำให้ไม่มีไฟส่องสว่างตามท้องถนน
อ่านข่าวอื่นๆ
คณะสอบสวนเหตุบุกสภาสหรัฐฯ เสนอดำเนินคดี "ทรัมป์"
"อัฟกานิสถาน" ประกาศปิดมหาวิทยาลัยสำหรับผู้หญิงทั่วประเทศ
"อีลอน มัสก์" พร้อมลาเก้าอี้ CEO ทวิตเตอร์ หลังโพลล์โหวตเห็นด้วย 57%