ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทนายเฮง" ยืนยันไม่เคยเรียก 10 ล้านบาท ช่วยคดี "ปราปต์"

อาชญากรรม
7 มี.ค. 66
17:27
1,509
Logo Thai PBS
"ทนายเฮง" ยืนยันไม่เคยเรียก 10 ล้านบาท ช่วยคดี "ปราปต์"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เพื่อนสนิทแฟน “ปราปต์ปฎล” พร้อมทนายเฮง ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ 10 ล้านบาท ให้ช่วยวิ่งเต้นคดี Forex-3D เลขาฯ รมว.ยุติธรรม ระบุคดีอยู่ในชั้นศาลแล้วไม่สามารถวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนได้

วันนี้ (7 มี.ค.2566) น.ส.ชิดชญา วณิชกิตติ์ พร้อมด้วยนายกฤษดา กฤตธานนท์ หรือ ทนายเฮง ผู้ที่ถูกนายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือปราปต์ นักแสดง อ้างว่าอยู่ในกลุ่มขบวนการตบทรัพย์เพื่อช่วยเหลือกรณีแฟนสาว ที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน การลงทุนสกุลเงินดิจิทัล Forex-3D ไปก่อนหน้านี้ และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ยังไม่ได้รับการประกันตัว ได้นำหลักฐานการพูดคุยกับนายปราบต์ในช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มาชี้แจง

น.ส.ชิดชญา เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกับนายปราปต์ คือเมื่อเดือน มิ.ย.2565 โดยได้ทักไปหาแฟนสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกัน เพื่อขอให้นายปราปต์โปรโมทนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่ขายอยู่ เนื่องจากเห็นว่านายปราปต์ใส่ยี่ห้อนี้เป็นประจำ และนายปราปต์ยังมาขอนาฬิกาฟรีด้วย แต่ทาง น.ส.ชิดชญา ไม่สามารถให้ได้ เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของโดยตรง แต่แฟนของนายปราปต์ก็ได้ตกลงซื้อไป 1 เรือน เพื่อช่วยสนับสนุนเพื่อนของตัวเอง

หลังจากนั้นได้ทราบข่าวว่าแฟนสาวของนายปราปต์ถูกดำเนินคดี จึงรู้สึกตกใจและเป็นห่วงเพื่อน และได้นัดหมายให้นายปราปต์มาคุยกับทนายเฮง ซึ่งตัวเองอยู่ด้วย เมื่อวันที่ 21 ส.ค.2565 โดยรู้จักกัน เพราะเป็นคนที่ร่วมทำคดีนี้ จากนั้นได้กินอาหารกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง และเป็นคนที่ออกใช้จ่ายค่าอาหารให้ เนื่องจากนายปราปต์บอกว่าไม่มีเงิน

แจ้งความ "ปราปต์" หมิ่นประมาทฯ

น.ส.ชิดชญา ยืนยันว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นเพียงการสอบถามเรื่องเงื่อนไขการประกันตัวเท่านั้น โดยทนายเฮงได้แนะนำเพียงว่า คดีนี้มีความเสียหายจำนวนมาก ทำให้วงเงินเงื่อนไขการประกันตัวก็ต้องใช้จำนวนมากเช่นกันเป็นหลักล้าน โดยที่ไม่ได้บอกจำนวนเงิน 10 ล้านบาทตามที่นายปราปต์กล่าวหา รวมทั้งไม่ได้กล่าวอ้างถึงการวิ่งเต้นคดี หรือพูดถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งเต้นคดี และไม่มีการตบทรัพย์ใดใดทั้งสิ้น ซึ่งคดีนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว จึงไม่สามารถวิ่งเต้นคดีในชั้นสอบสวนได้

ส่วนที่นายปราปต์ อ้างว่ามีการพูดถึง “ความยุติธรรม ต้องมีค่าใช้จ่าย” ทนายเฮง ยืนยันว่าไม่ได้พูดถึง แต่หากตามหลักการว่าจ้างคดีความแล้วก็จำเป็นต้องมีค่าจ้างทนายความวิชาชีพ และค่าดำเนินการในชั้นศาลอยู่แล้ว แต่จะจำนวนเท่าใดก็ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างคู่ความ โดยหลังจากนี้ทั้ง 2 คนก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายปราปต์ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากถือว่าได้รับความเสียหายทั้งเรื่องชื่อเสียง และผลกระทบความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ

เลขาฯ รมว. ยันไม่รู้จักส่วนตัว แต่เคยกินข้าวด้วยกัน

ขณะที่ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับนายปราปต์เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับว่าเคยไปกินอาหารด้วยกัน แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี ส่วนทนายเฮง ยอมรับว่า เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายในการร่วมกันทำงานในกระทรวง ที่มีหลายคดีต้องการรับความช่วยเหลือจากผู้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งทนายเฮงไม่ได้รับค่าตอบแทนจากกระทรวง เป็นการช่วยเหลือด้วยจิตอาสา พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนได้แล้ว เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่หากนายปราปต์มีพยานหลักฐานที่เห็นว่ากลุ่มคนที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องตบทรัพย์ก็สามารถดำเนินคดีได้

ที่ผ่านมาในช่วงที่นัดกินอาหารกัน นายปราปต์ยังไม่ถูกดำเนินคดี แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินนั้น ทำให้นายปราปต์ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสาเหตุที่ไม่ยอมจ่ายเงินหรือไม่นั้น ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ยืนยันว่า ในช่วงดังกล่าวไม่มีการเรียกรับเงิน เพราะนายปราปต์ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาและถือว่าไม่เกี่ยวข้องทางคดี

ส่วนก่อนหน้านี้ที่นายปราปต์ ได้ดำเนินคดีกับนายพงศธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากไปค้นที่ห้องพักของเพื่อนแฟนสาวนั้น คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว เนื่องจากเป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และนำค้นโดยเจ้าของห้องอย่างถูกต้อง เพื่อให้นำของที่เกี่ยวข้องทางคดีออกมา ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

สำหรับคดี Forex-3D ยืนยันว่าดีเอสไอ ได้สืบสวนอย่างตรงไปตรงมาและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน อยู่ระหว่างดำเนินการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้กับผู้เสียหายกว่า 12,000 คน ขณะนี้ยึดมาได้พอสมควรแล้ว ซึ่งดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลักที่ร่วมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ในข้อหาฉ้อโกงไปแล้ว ส่วนการขยายผลก็จะมีกลุ่มคดีฟอกเงินที่กำลังดำเนินการสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง