วันนี้ (24 พ.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อรับฟังผลการตรวจสอบบริษัทนำเข้าสารไซยาไนด์ โดยเปิดเผยว่า ผลการตรวจสอบพบบริษัทต้นทางที่นำเข้าสารไซยาไนด์ล็อตของนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีใบอนุญาตนำเข้า, ครอบครองและจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมาย แต่ใบอนุญาตมีเงื่อนไขระบุไว้ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานหรือการศึกษาวิจัยเท่านั้น
แต่การตรวจสอบพบว่า บริษัทนี้จำหน่ายไซยาไนด์ให้ผู้ค้ารายย่อย 6 ราย รวมแล้วประมาณ 100 ขวด และผู้ค้ารายย่อยทั้ง 6 รายได้โฆษณาเพื่อจำหน่ายสารไซยาไนด์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อีกทอด ซึ่ง 1 ในผู้ซื้อคือ "แอม" ที่นำไปใช้ในการกระทำความผิด ขณะที่บางรายก็จำหน่ายให้ผู้ซื้อทั่วไปและผู้ซื้อได้นำไปใช้เพื่อฆ่าตัวตาย โดยพบว่าทำสำเร็จไปถึง 9 คน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า "ไซยาไนด์" มีกฎหมายการควบคุมเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ภายใต้กฎหมายกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ยังมีช่องว่างสำหรับผู้ใช้ส่วนบุคคล เช่น กรณีการใช้ในห้องวิจัย หรือผู้ประกอบการชุบโลหะ เช่น กลุ่มร้านทอง ไม่ต้องขออนุญาตครอบครอง ทำให้มีการจำหน่ายและครอบครองใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ และเมื่อเกิดการใช้ผิดวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว บริษัทและผู้ค้ารายย่อยที่จำหน่ายสารไซยาไนด์เหล่านี้ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ
ซึ่งวันที่ 26 พ.ค.นี้ จะให้พนักงานสอบสวนพิจารณาพฤติการณ์เหล่านี้ให้ละเอียด จากนั้นจะส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อประกอบการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทนำเข้า และผู้ค้ารายย่อยทั้ง 6 ราย
ส่วนมาตรการป้องกันในอนาคต อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการแก้ไขรายละเอียดเงื่อนไขการควบคุมการครอบครอง, การจำหน่ายในบุคคลทั่วไป ซึ่งอาจจะบังคับให้ผู้ครอบครอง ผู้ซื้อจะต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมในทุกกรณี
อ่านข่าวอื่นๆ
"ทนายพัช" ติดต่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ 31 พ.ค.นี้
ตร.แถลงปิดคดี "ครูยุ่น" แจ้ง 8 ข้อหา ทำร้ายร่างกาย-ใช้แรงงานเด็ก