วันนี้ (29 พ.ค.2566) ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักย่าน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบว่าเป็นที่พักอาศัยของคนต่างชาติที่เข้ามาขอทานในไทย โดยการตรวจค้นบ้าน 2 หลัง พบชาวกัมพูชา แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 23 คน มีผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 คน และช่วยเหลือเด็กไว้ได้ 18 คน
นำเด็กเร่ขอทานรายได้ 300-1,000 บาท
พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้จะนำเด็กอายุ 2-10 ปี มาเร่ขอทานในพัทยา จึงสืบสวนและเข้าไปตรวจค้นในบ้านพัก
โดยพบเป็นชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และอ้างว่านำลูกหลานที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มานั่งขอทานตามจุดต่างๆ ได้เงินประมาณ 300-1,000 บาทต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นขอทานคู่แม่ลูก และจะให้สามีคอยยืนเฝ้าอยู่ห่างๆ
ซึ่งการกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายการค้ามนุษย์ บังคับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเป็นขอทาน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน เนื่องจากฝ่ายสามีมีร่างกายปกติสามารถประกอบอาชีพได้ ไม่มีความจำเป็นต้องนำลูกมานั่งขอทาน จึงได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหา 5 คน จาก 6 คน
ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน สาเหตุที่ไม่ได้แจ้งข้อหา เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว จึงจำเป็นต้องนำลูกมาเลี้ยงดูระหว่างขอทานด้วย จึงไม่เข้าข่ายค้ามนุษย์ แต่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ พนักงานสอบสวนจึงได้คุมตัวไปส่งฟ้องต่อศาล และศาลมีคำพิพากษาปรับ 20,000 บาท แต่ให้กักขังแทนค่าปรับเป็นเวลา 30 วัน
ตำรวจจะมีการตรวจดีเอ็นเอยืนยันความสัมพันธ์ว่าเป็นพ่อ แม่ของเด็กจริงหรือไม่ เพราะหากดีเอ็นเอยืนยันไม่ได้เป็นลูกจริง ก็จะเข้าข่ายค้ามนุษย์เพิ่มเติมได้
พบมากสุดกทม.-สมุทรปราการ-สุรินทร์
น.ส.ขวัญชนก ผลประดิษฐ์ หัวหน้ากลุ่มการส่งเสริมและพัฒนา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ระบุว่า สถิติที่ผ่านมาพบว่ามีขอทานในทั่วประเทศ 303 คน แบ่งเป็นต่างด้าว 82 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชา
พบการขอทานมากที่สุดในพื้นที่ กทม.สมุทรปราการ และสุรินทร์ เนื่องจากขณะนี้มีการเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย และกลุ่มนักท่องเที่ยวจะให้เงินดอลล่าร์ทำให้มีรายได้สูง
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะบริจาคเงินให้คนขอทาน อาจเป็นการส่งเสริมให้เกิดการขอทานอาชีพ หรือแสวงหาประโยชน์จากเด็ก หรือมีการบังคับ ทำร้ายร่างกายเด็กได้