วันนี้ (13 ก.ค.2566) ในการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีการอภิปรายถึงกรณีสมาชิกภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล จากกรณีหุ้นไอทีวี โดยระบุว่า กรณีหุ้นไอทีวีนั้นขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่ดำเนินการอยู่และยังไม่สิ้นสุด โดยถือหลักว่า สันนิษฐานก่อนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ นายพิธายังถือว่า เป็นแคนดิเดตนายกฯและถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งคือ หลักการที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับร่วมกัน
อ่านข่าว ประชุมสภา : "สมชาย" งัดหลักฐานก้าวไกลเสนอแก้ ม.112
นอกจากนี้ ในปี 2562 ในขณะที่จะเลือกนายกฯระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขณะนั้นก็มีการลงมติในเรื่องนี้ได้อย่างปกติ ซึ่งการลงมติในเวลานั้นนายธนาธร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว ขณะที่กรณีนายพิธายังไม่ถูกคำสั่งใด ๆ เลย ซึ่งในขณะนี้นายพิธามีสิทธิที่ชอบธรรมและมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
อ่านข่าว ประชุมสภา : "พริษฐ์" แจงนโยบายแก้ไข ม.112 ไม่ใช่ล้มล้าง
ผมยืนยันกับท่านประธานว่า บรรดาเรื่องที่มีการหยิบยกมา กรณีหุ้นไอทีวี ไม่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาได้ว่า คุณพิธาไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกฯได้
คำถามถัดไปคือ ตกลงที่มีการอภิปรายกันมานี้ ตกลงแล้วเป็นเพราะว่านายพิธา คือ หัวหน้าพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่จึงไม่สามารถปฏิบัติแบบในปี 2562 ที่เคยทำกันมาได้ ดังนั้นพรรคก้าวไกลจึงมีความคาดหวังว่าจะมีการปฏิบัติตามที่เคยทำกันในปี 62
ที่มีการพูดกันว่า มีการกระทำทั้งหลายแหล่ที่บอกว่า เป็นการล้มล้างการปกครอง เรียนตามตรง การล้มล้างการปกครองตามที่ผมเห็นมาชั่วชีวิตจนอายุ 31 ปี มีกรณีเดียว คือการรัฐประหารครับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ชี้แจงกรณีไม่เรียก "พิธา" ชี้แจงปมวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.
ประชุมสภา : "สมชาย" งัดหลักฐานก้าวไกลเสนอแก้ ม.112
ประชุมสภา : คมวาทะ "ชาดา ไทยเศรษฐ์" อย่าอ้าง 14 ล้านเสียงแก้ ม.112