วันนี้ (18 ก.ค.2566) นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตร ภายหลังจากมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 ก.ค.2566
โดยแนวทางการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซลดังกล่าว จะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.2566 ต่อเนื่องไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะดำเนินการได้
พรชัย จิรกุลไพศาล - วิศักดิ์ วัฒนศัพท์
ซึ่งการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว และจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาบริบทของปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบในการบริหารเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงในตลาดน้ำมัน และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ต้องเตรียมพร้อมสภาพคล่องเพื่อรองรับความผันผวนนั้น รวมถึงต้องคำนึงถึงการบรรเทาผลกระทบต่อรายจ่ายด้านพลังงานของประชาชน
วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ปัจจุบันแม้ว่าฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงติดลบ แต่สถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นหลังจากได้เงินกู้ยืมเข้ามาเติมในระบบ และสามารถเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ผ่อนคลายลง แต่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงมีความผันผวนด้วยปัจจัยกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และความกังวลในเศรษฐกิจที่ยังคงถดถอย โดยราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลในตลาดโลกช่วง ม.ค. – มิ.ย. 2566 อยู่ที่ 98.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลง 29.38 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลจากช่วงสิ้นปี 2565
สำหรับฐานะเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ วันที่ 16 ก.ค.2566 ติดลบ 49,829 ล้านบาท แบ่งเป็นติดลบจากบัญชีน้ำมัน 4,316 ล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG 45,513 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เตือน "ไส้กรอกหมู" ลอบนำเข้า เสี่ยงแพร่โรค ASF