ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โฆษก ตร.ชี้สอบสวนเหตุ "สิงคโปร์แอร์ไลน์" เป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง

สังคม
22 พ.ค. 67
12:44
719
Logo Thai PBS
โฆษก ตร.ชี้สอบสวนเหตุ "สิงคโปร์แอร์ไลน์" เป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
โฆษก ตร.เผยเหตุการณ์สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ การสอบสวนยึดตามกฎหมายสากล-เป็นหน้าที่หน่วยงานกลาง ส่วนผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในไทย 71 คน

วันนี้ (22 พ.ค.2567) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยการดำเนินการสอบสวนเหตุสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางฮีทโธรว์ - ชางงี ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังตกหลุมอากาศจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนและมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา

อ่านข่าว : แถลง "สิงคโปร์แอร์ไลน์" ลงจอดฉุกเฉินสุวรรณภูมิ ตาย 1 คน

พล.ต.ท.อาชยน กล่าวว่า แม้จะเป็นอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งอาจต้องมีการฟ้องร้องตามสิทธิ์ ซึ่งตำรวจไทยไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ การสอบสวนจะต้องดำเนินการตามหลักกฎหมายสากลในรูปของกรรมการร่วมหลายหน่วยงาน ในรูปแบบคณะกรรมการสากล เนื่องจากเป็นอากาศยานต่างชาติ นักบินต่างชาติ สถานที่เกิดเหตุอยู่นอกเหนือราชอาณาจักร

ดังนั้น แม้ว่าประเทศไทยจะมีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะที่ปรากฏผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจในการรับแจ้งความ เพราะต้องยึดตามกฎหมายสากลด้วย ซึ่งเชื่อว่ามีช่องทางในการร้องเรียนดำเนินการอยู่แล้ว

อ่านข่าว : เปิดภาพความเสียหายเที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศ

พล.ต.ท.อาชยน กล่าวอีกว่า ส่วนตำรวจไทย เบื้องต้นจะดูแลเรื่องสำนวนผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต ร่วมกับทีมแพทย์เป็นหลักก่อน ซึ่งได้มีการส่งศพชันสูตรที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ เรียบร้อยแล้ว ตลอดจนการเก็บรักษาร่างผู้เสียชีวิต การดูแลอำนวยความสะดวกให้ผู้บาดเจ็บและนักท่องเที่ยวตกค้างที่เหลือในการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือครอบครัว รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น

ขณะที่ทีมประชาสัมพันธ์ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ดำเนินการตามแผนฉุกเฉินให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เหลือ จนเดินทางกลับสิงคโปร์เรียบร้อยแล้วและถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ

หลังจากนี้จะเป็นเรื่องของสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสอบสวนรายละเอียดการเกิดเหตุการณ์ โดยขอให้สื่อมวลชนและประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของสายการบินสิงค์โปร์แอไลน์เป็นหลัก

ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บยังรักษาในไทย 71 คน

ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ค.) สื่อมวลชนทั้งในประเทศและต่างประเทศยังติดตามความคืบหน้าอาการของผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ซึ่งเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมาโรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ได้เผยแพร่เอกสารต่อสื่อมวลชน มีใจความว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาทั้งหมด 71 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 26 คน ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 คน

ผู้ป่วยบาดเจ็บอาการปานกลางจำนวน 39 คน ส่งต่อโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4 คน, ส่งต่อโรงพยาบาลกรุงเทพ 2 คน และผู้ป่วยบาดเจ็บอาการรุนแรง 6 คน สำหรับสัญชาติผู้บาดเจ็บในเบื้องต้นได้แก่ มาเลเซีย 3 คน, สหราชอาณาจักร 3 คน, นิวซีแลนด์ 2 คน, สหรัฐอเมริกา 2 คน และอังกฤษ, สเปน, ไอร์แลนด์ ชาติละ 1 คน

ขณะที่เมื่อช่วงเช้า ทีมแพทย์ผู้รักษาได้ประชุมสรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บล่าสุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลก่อนจะชี้แจงเอกสารฉบับที่ 2 กับสื่อมวลชน ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา มีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เดินทางมาติดตามความคืบหน้าอาการ ของผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

อ่านข่าว

ระทึก! เที่ยวบิน SQ321 ลงฉุกเฉินสุวรรณภูมิตาย 1 เจ็บ 30

"หลุมอากาศ" อันตรายมองไม่เห็น ผู้โดยสารโปรดรัดเข็มขัดทุกที่นั่ง

นักวิชาการชี้ "ภาวะโลกร้อน" ส่งผลเครื่องบินตกหลุมอากาศถี่ขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง