- ตร.นำตัว 8 ลูกเรือน้ำมันเถื่อน ฝากขังศาลอาญา - ค้านประกัน
- ถกงบ 68 วันที่ 2 "วิสุทธิ์" เผยภาพรวมเรียบร้อยดี-ประท้วงน้อย
วันนี้ (20 มิ.ย.2567) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงหลังจากที่มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นั้น ตัวเองรู้สึกผิดหวังที่ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวที่มี ผบ.ตร.มีคดีเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เว็บพนัน หรือ มีความเชื่อมโยงกับ 18 ธุรกิจผิดกฎหมาย
ที่ผ่านมาตัวเองพยายามทำหน้าที่ตรวจสอบ ร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ในฐานะทนายประชาชน แต่สุดท้ายพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ยังได้กลับมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.เหมือนเดิม อยากให้ตรวจสอบ มีมาตรฐานเดียวกัน แต่กรณีของ ผบ.ตร.อาจใช้อำนาจเส้นสายบางอย่าง จึงกลับมาตำแหน่งเดิมได้
พร้อมกราบขอโทษประชาชนที่พยายามต่อสู้แล้ว แต่ภารกิจไม่สำเร็จ ยืนยันว่าตัวเองมีหลักฐานชัดเจน ทั้งบัญชีการเงิน เส้นทางรับเงินบัญชีม้าจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ การรับประโยชน์ จากส่วยเว็บพนัน ที่โยงไปถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา แต่กลับไม่มีความคืบหน้าของคดี ทั้ง สน.เตาปูน , ก.ตร. , ป.ป.ป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง
อ่านข่าว : เปิดผลสอบ 2 บิ๊กตำรวจ ให้ "บิ๊กต่อ" หวนคืนเก้าอี้ ผบ.ตร.
ษิทรา เบี้ยบังเกิด
ษิทรา เบี้ยบังเกิด
พร้อมตั้งข้อสังเกต การรับราชการทำไมถึงมีเงินเข้าบัญชีมากกว่าร้อยล้าน มีรีสอร์ต และบ้านที่อยู่ต่างประเทศ โดยฝากถึงพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถ้าไม่สงสารวงศ์ตระกูลตัวเอง ให้ควรสงสารตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะการกลับมาดำรงตำแหน่ง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนคำสั่งการให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ไม่เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนกฎหมาย เชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร.ซึ่งอาจถูกดำเนินคดี
นายษิทรา ยอมรับกังวลความปลอดภัยของตัวเองมาตลอด หลังแจ้งความดำเนินคดี และออกมาเปิดโปงเรื่องของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งหลังจากกลับมารับตำแหน่ง ผบ.ตร.อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากกว่าเดิม และไม่กังวลหากตัวเองจะถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาท เพราะมั่นใจว่ามีหลักฐานที่พบว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีความเชื่อมโยงต่อการกระทำผิดจริง
อ่านข่าว :
สะพัด "บิ๊กต่อ" คืน ผบ.ตร. "บิ๊กโจ๊ก" ยังไร้สรุปอุทธรณ์คำสั่งให้ออก