วันนี้
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเดินทางถึงสนามบินในกรุงเนปิดอว์ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ โดยในวันนี้มีกำหนดการณ์เข้าพบหารือกับ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีของพม่า จากนั้นจะเดินทางไปที่นครย่างกุ้งเพื่อหารือกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้าน
ก่อนที่จะเดินทางมาพม่านางคลินตัน ได้กล่าวถึงการเยือนพม่าในครั้งนี้เพื่อดูความมุ่งมั่นของรัฐบาลพม่าในการปฏิรูปการเมืองและเศรษฐกิจ โดยจะเจรจาให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษการเมืองซึ่งคาดว่ามีประมาณ 500 - 1,600 คน รวมถึงให้ยุติความขัดแย้งกับกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพเร่ร่อนกลายเป็นคนไร้ที่อยู่
อีกประเด็นหนึ่งที่สหรัฐกังวลคือเรื่องที่พม่าร่วมมือกับเกาหลีเหนือในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนางคลินตัน จะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกับรัฐบาลพม่าด้วย เจ้าหน้าที่ของสหรัฐคนหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าสหรัฐจับตาดูเรื่องนี้อย่างระมัดระวังและยังไม่เห็นสัญญานใดๆ ว่าพม่ากำลังพัฒนาโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเรือพิฆาตของสหรัฐได้สกัดเรือบรรทุกสินค้าของเกาหลีเหนือบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเรือต้องสงสัยว่าบรรทุกชิ้นส่วนของขีปนาวุธไปยังพม่า ขณะที่สหประชาชาติเผยแพร่รายงานของเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ระบุว่าเกาหลีเหนือได้ส่งอุปกรณ์นิวเคลียร์และขีปนาวุธไปยังพม่า,อิหร่าน และ ซีเรีย
คนอีกกลุ่มหนึ่งที่จับตาดูการเปลี่ยนแปลงในพม่า นั่นคือชาวพม่าพลัดถิ่นและกลุ่มชาติพันธุ์ ที่กำลังติดตามสถานการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลพม่าในครั้งนี้ เป็นเรื่องจริงหรือเป็นการจัดฉาก มีหลายคนบอกว่ายังไม่ค่อยไว้ใจรัฐบาลพม่า ซึ่งทุกวันนี้ยังมีรายงานว่ากองกำลังของรัฐบาลใช้กำลังปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์ตามแนวชายแดน บรรดานักการทูตและนักเคลื่อนไหวเห็นตรงกันว่าประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนของกลุ่มชาติพันธุ์ จะเป็นประเด็นสำคัญที่ชี้วัดว่ารัฐบาลพม่ามีความจริงใจในการเจรจากับกลุ่มชาติพันธุ์หรือไม่
นางคลินตันถือเป็นผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐคนแรกในรอบ 56 ปีที่เยือนพม่า โดยผู้แทนระดับสูงคนล่าสุดของสหรัฐที่เยือนพม่าคือนายจอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส รัฐมนตรีต่างประเทศเยือนพม่าเมื่อปี 2498 ทั้งนี้นักวิเคราะห์บางรายมองว่า การเยือนของนางคลินตันในครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อคานอำนาจกับจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้