รวมวลีเด็ด
พล.ต.อ.สมยศ ประเดิมงานแรกในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่นำตัวผู้ต้องหาคลี่คลายคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยว บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นคดีใหญ่คดีแรกของ พล.ต.อ.สมยศ หรือ "บิ๊กอ๊อด" แต่ที่สะเทือนวงการสีกากีมากที่สุดและเกิดขึ้นในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ คือคดีแอบอ้างสถาบัน เรียกรับผลประโยชน์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นำโดย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 31 ของ พล.ต.อ.สมยศ งานนี้ "บิ๊กอ๊อด" ทั้งต้องเซ็นสั่งย้าย ดำเนินคดีและยึดทรัพย์ของเพื่อนร่วมรุ่นและเป็นที่มาของวลีเด็ดนี้ "ในยุคสมัยของผม ใหญ่แค่ไหนก็จับ"
แต่ที่ฮือฮาและเกินความคาดหมายของหลายคน คือการออกมาแสดงความเห็นด้วยกับการเปิดบ่อนกาสิโน พล.ต.อ.สมยศ แม้จะมีเสียงคัดค้านจากหลายกลุ่ม รวมถึงภาคประชาสังคม แต่ "บิ๊กอ๊อด" ก็เมินต่อความเห็นเหล่านี้
อีกหนึ่งผลงานของ พล.ต.อ.สมยศ ที่อาจถูกมองว่าประสบความเร็จได้ในยุคของ คสช. คือการเซ็นคำสั่งถอดยศ พันตำรวจโท ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากเรื่องนี้ดำเนินการผ่านไปแล้วไม่น้อยกว่า 3 ยุค ผบ.ตร.และอาจจะเรียกได้ว่าต้องเหนื่อยกันจนหยดสุดท้าย เพราะแม้จะเตรียมเกษียณอายุราชการ แต่ช่วงโค้งสุดท้ายยังมีคดีใหญ่ "ระเบิดราชประสงค์" มาทดสอบ ผบ.ตร.คนนี้
กว่า 40 วัน นับตั้งแต่เกิดเหตุ มีความคืบหน้าของคดีเป็นระยะ แต่เมื่อจับผู้ต้องหาได้ "บิ๊กอ๊อด" ก็ต้องอารมณ์เสียกับคำถามของผู้สื่อข่าวที่ถามว่าการจับกุมผู้ต้องสงสัยในเหตุระเบิดราชประสงค์นั้น "จับแพะหรือเปล่า" ทำให้ พล.ต.อ.สมยศต่อว่าผู้สื่อข่าวคนนั้นอย่างมีอารมณ์ว่าถามคำถามไม่สร้างสรรค์ พร้อมกับถามว่า "คุณเป็นคนไทยหรือเปล่า"
ตลอดระยะเวลา 1 ปี ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ เจองานหนักและท้าทายไม่น้อย ภาระนี้ กำลังถูกส่งต่อให้ ผบ.ตร.คนที่ 11 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ หลังเกษียณจะเดินหน้าทำธุรกิจและยังไม่แน่ว่าจะก้าวเข้าสู่วงการการเมืองหรือไม่ แต่ที่แน่นอนคือในเส้นทางของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เขามีทายาทคือ ร.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง ลูกชายคนเดียวเป็นผู้สืบทอดต่อ