ผู้ต้องหาก่อการร้ายสารภาพ เช่าอาคารพาณิชย์เก็บอุปกรณ์ผลิตวัตถุระเบิดนานกว่า 1 ปี
นายอาตรีส ฮุสเซน ผู้ต้องสงสัยกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ ขบวนการฮิสบุลเลาะห์ ถูกนำตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่ม ที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดในการสืบสวนขยายผล เปิดเผยว่า นายอาตรีส ให้การรับสารภาพว่า ได้เช่าอาคารพาณิชย์ไว้สำหรับบรรจุปุ๋ยยูเรียและแอมโมเนียมไนเตรด ที่เป็นสารประกอบในการทำวัตถุระเบิดจริง โดยเช่าอาคารนี้มานานกว่า 1 ปี แต่ไม่มีคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง
ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้นำชุดตรวจพิสูจน์เข้าตรวจในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบถุงบรรจุปุ๋ยยูเรียและแอมโมเนียมไนเตรทบางส่วนเพื่อส่งออกไปประเทศแถบตะวันออกกลาง และยังมีบางส่วนที่เก็บไว้กว่า 400 กิโลกรัม และหากนำมาผลิตเป็นวัตถุระเบิด จะมีอานุภาพรุนแรงเป็นวงกว้างกว่า 2 กิโลเมตร
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อกล่าวหานายอาตรีสมีแอมโนเนียมในเตรทไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธบริภัณฑ์ปี 2530 มาตรา 15 และ 43
นายอาตรีสถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.) การตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายอาตรีสเดินทางเข้าออกประเทศไทย 12 ครั้ง สำหรับเรื่องนี้สื่อมวลชนของประเทศอิสราเอลรายงานว่า ตำรวจไทยได้เผยแพร่ภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน ซึ่งชายคนดังกล่าวมีใบหน้าคล้ายนายนาอิม ฮาริส สมาชิกฮิสบุลเลาะห์ ที่สำนักงานความมั่นคงอิสราเอลเคยเผยแพร่ภาพ และเป็นที่ต้องการตัวที่สุด