สหภาพการบินไทยจ่อบุกพบ 
แนวคิดเรื่องการขายหุ้น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อให้พ้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยให้กองทุนวายุภักษ์เข้าซื้อหุ้นร้อยละ 2 ซึ่งจะทำให้กระทรวงฯ ถือครองหุ้นในบริษัททั้ง 2 เหลือเพียงร้อยละ 49 มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อนายวีระพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตของประเทศ (กยอ.) ตอกย้ำเรื่องนี้ในระหว่างแถลงแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำ โดยระบุว่า เป็นแนวทางในการลดหนี้สาธารณะ
ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ระบุว่า การลดสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง ในบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ไม่จำเป็นต้องรีบ โดยจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศอย่างรอบคอบ
ด้านนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ไม่ขัดข้องหากจะขายหุ้นของบริษัทฯ เพราะเห็นว่าหากมีความเป็นเอกชนมากขึ้น จะช่วยลดขั้นตอนในการดำเนินการ หรือลงทุนในโครงการต่างๆ แต่ต้องรอดูความชัดเจนจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
ขณะที่สหภาพแรงงาน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เรียกประชุมสมาชิกด่วน เพื่อหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ชี้แจงทำความเข้าใจกับพนักงานการบินไทย และเปิดเวทีสาธารณะชี้แจงการให้กองทุนวายุภักษ์เข้าซื้อหุ้นการบินไทย ว่าเป็นไปเพื่อความคล่องตัวในการบริหาร หรือเพื่อเอื้อประโยชน์การเมือง พร้อมเตรียมเข้าพบนายกิตติรัตน์ในสัปดาห์หน้า
ด้านตลาดทุนตอบรับกับแนวคิดดังกล่าว โดยนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า จะช่วยส่งผลดีต่อนักลงทุน และช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมให้ความเห็นว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องลดหนี้สาธารณะ เพื่อระดมเงินกู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และระบบบริหารน้ำ ซึ่งแม้จะแปรรูปบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ให้เป็นเอกชนมากขึ้น ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบประชาชน เนื่องจากกระทรวงการคลังยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในกองทุนวายุภักษ์