ตำรวจพบหลักฐานใหม่
สำหรับความคืบหน้าในคดีที่นายอาทริส ฮุสเซน ถูกตั้งข้อหาในคดีซุกซ่อนสารประกอบวัตถุในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาครนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า ทางตำรวจพบหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในโบสถ์แห่งหนึ่ง โดยนายเจมี เปาโล ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนล่าสุดที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับ ไปปรากฎตัว ลักษณะคล้ายดูลาดเลา
ด้าน พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจอาจต้องไปขอสอบปากคำนายอาทริสในเรือนจำเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ยังไม่อาจยืนยันได้ว่า นายเปาโลยังอยู่ในประเทศไทย หรือเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
พล.ต.อ.ปานศิริ ยังกล่าวอีกว่า จากพยานหลักฐาน ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินคดีนายอาทริส ฮุสเซน และนายเจมี เปาโล ในข้อหาก่อการร้ายได้ เพราะพยานหลักฐานยังเชื่อมโยงไม่ถึงว่าทั้งหมดพยายามเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย ขณะนี้สามารถดำเนินคดีได้เพียงกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยุทธภัณฑ์ ในกรณีครอบครองแอมโมเนียไนเตรต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ข้อมูลจากการสืบสวน นายอาทริสได้รับการว่าจ้างจำนวน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 160,000 บาท จากนายเอโบล อาลีกาลีน ให้มาตรวจสอบสินค้าที่เชื่อว่าเป็นสารตั้งต้นผลิตระเบิด เพื่อส่งไปประเทศที่ 3 จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งนอกจากนายเปาโลแล้ว ยังพบผู้ร่วมขบวนการกับนายอาทริส ฮุสเซน อีก 2 คน คือ นายอาบาส และนายอัลลา